xs
xsm
sm
md
lg

“อนุชา” สั่ง พศ.เข้มพฤติกรรมพระ กู้ศรัทธา 1 เดือน ต้องเห็นผล ชี้ ไม่ได้เอาผิดแต่คดีดังจ่อชงทำประวัติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมต.สำนักนายกฯ กำชับ พศ.ทุก จว.สแกนพฤติกรรมพระสงฆ์ เรียกความศรัทธา ปชช. ย้ำ ต้องเห็นผลใน 1 เดือน ยัน ดำเนินคดีข่าวฉาววงการสงฆ์หลายคดี ไม่ใช่เฉพาะคดีดัง เตรียมชงมหาเถรสมาคมทำประวัติพระ ให้อุปัชฌาย์รับผิดชอบบุคคลที่มาบวช

วันนี้ (1 ก.พ.) นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมมอบนโยบายการคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงในประเด็นเกี่ยวกับพระสงฆ์ ตนจึงกำชับให้สำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด (พศจ.) ทุกจังหวัดร่วมมือกัน ประสานงานกับส่วนกลาง สอดส่องสแกนพฤติกรรมพระสงฆ์ทุกพื้นที่ เพื่อไม่ให้กระทบกับพระพุทธศาสนา เพื่อเรียกความศรัทธาจากประชาชนให้เพิ่มมากขึ้น และเชื่อว่า สิ่งที่ได้มอบนโยบายไปในวันนี้จะเห็นผลภายใน 1 เดือน ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดไม่จำเป็นจะต้องลงตรวจทุกพื้นที่ แต่สามารถรับข้อมูลจากประชาชนเพื่อไปตรวจสอบ เนื่องจากประชาชนมีโซเชียลมีเดีย ดังนั้น สามารถที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ขณะเดียวกัน ให้สำนักพระพุทธศาสนาทุกจังหวัดประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด และให้แจ้งเบาะแสมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ทันที จากนั้นสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จะเข้าไปดำเนินการทันที

นายอนุชา กล่าวถึงการขึ้นบัญชีพระสงฆ์ที่กระทำผิด ว่า ส่วนตัวมี แนวคิดที่จะทำบัตรประจำตัวพระสงฆ์ แต่ติดขัดหลายเรื่อง แต่สิ่งที่จะเร่งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ทำ คือ การทำประวัติพระสงฆ์ และให้สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะฝ่ายเลขามหาเถรสมาคม เตรียมเสนอมาหาเถรสมาคมว่าพระที่รับอุปัชฌาย์ จะต้องรับผิดชอบบุคคลที่มาบวช เพื่อให้กำหนดการลงโทษให้เกิดขึ้นในองค์กรพุทธ

นายอนุชา กล่าวยืนยันว่า กรณีพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่เกิดขึ้นทุกกรณี ได้มีการดำเนินคดีไปเยอะแล้ว และเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วไม่ว่าจะเป็น เช่น กรณีวัดดัง จ.ลำปาง ปั้นรูปพญาปุริสาทมีของลับโผล่โตงเตง และกรณีเจ้าอาวาสวัดป่าแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครราชสีมา ชอบโพสต์ภาพอวดภาพโชว์หุ่น ลงในโซเชียลมีเดีย เป็นต้น ทั้งนี้ ย้ำว่า ดำเนินคดีไปหลายกรณี ไม่ใช่เฉพาะแค่คดีดัง ซึ่งบางครั้งไม่ได้มีการนำมาเผยแพร่ เพราะถือว่าเป็นดาบสองคม และจะเกิดความเสื่อม ส่วนกรณีพระครูสุวิทย์ ชินวโร (ครูบาไก่) เจ้าอาวาสวัดป่าปฐมเทวาบูรพาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ปัจจุบันมีความผิด คือ ลาหุอาบัติ และกำลังดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอยู่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องถูกลงโทษหนักกว่านั้น ซึ่งมีทั้งโทษทางแพ่งและอาญา

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกัน จะเร่งตรวจสอบการเปิดสำนักสงฆ์ในพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ต้องยอมรับว่า การเปิดสำนักสงฆ์มีผู้มีจิตศรัทธาให้การสนับสนุน และตั้งแต่ในอดีตไม่รู้ว่ามีการปล่อยประละเลยหรือไม่ เช่น การไปอยู่ในที่ดินสาธารณสมบัติ หรือตามป่า ตามเขา จึงให้นโยบายไปว่าจะต้องพยายามตรวจสอบดูแลเรื่องพวกนี้ด้วย ด้วยการป้องปรามและให้เกิดสิ่งเหล่านี้น้อยที่สุด เพราะไม่จำเป็นต้องมีสำนักสงฆ์เพิ่มมากขึ้น ทำสิ่งเดิม ที่มีอยู่ให้เกิดความศรัทธาจะดีกว่า


กำลังโหลดความคิดเห็น