xs
xsm
sm
md
lg

เอ๊ะยังไง!? “เจี๊ยบ” แชร์คลิป “ทักษิณ” ต้มเสื้อแดง “เต้น” โยนผิด “ตู่” ปมแกนนำ นปช.แตก “วันชัย” ฟันธง “พท.” ชวด “นายกฯ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ขอบคุณข้อมูล-ภาพ จาก เพจเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
แตกสะบั้น? “เจี๊ยบ” แชร์คลิป “ทักษิณ” ต้มเสื้อแดงจนเปื่อย “เต้น-ณัฐวุฒิ” โดดป้อง “นายใหญ่” โยนผิด “ตู่-จตุพร” ตั้งพรรคเพื่อชาติ ต้นเหตุแกนนำ นปช.ขัดแย้ง “วันชัย” ฟันธง “พท.” แลนด์สไลด์ ก็ชวดนายกฯ แนะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (28 ม.ค. 66) กลายเป็นกระแสร้อน จากกรณี 3 วันที่แล้ว เพจเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ของ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แชร์คลิปวิดีโอรวบรวมคำพูด ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วิดีโอลิงก์จากต่างประเทศ ปลุกระดมคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 มีความยาว 1.13 นาที โดยตอนหนึ่งนายทักษิณบอกคนเสื้อแดง ว่า ถ้ามีเสียงปืนนัดแรกดังขึ้น ตนจะเข้ามานำพี่น้องคนเสื้อแดงเดินเข้ากรุงเทพฯ ทันที 


ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือ เต้น ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง “จุดแยกทางแกนนำ นปช. ความจริงอีกมุมหนึ่ง เพื่อความครบถ้วนรอบด้าน”

โดยระบุว่า “เมื่อมีเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. แยกทางกันออกเป็น 2 ส่วน และการดำรงสภาพขององค์กร นปช.ไม่ได้มีอยู่จริงอีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น หลังจากที่คุณจตุพรในฐานะแกนนำ ออกจากคุกกลางปี 2561 เราก็มีการพบปะ ประชุมกันตามปกติ เพราะวิถีขององค์กร นปช.ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงช่วงเวลานั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณจตุพรได้ปรารภหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ในช่วงที่มีการสังสรรค์กันกับพี่น้อง นปช.จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผมนั่งอยู่ในนั้นด้วยว่า ได้ตกลงใจที่จะทำพรรคการเมืองหนึ่ง คือ พรรคเพื่อชาติ ร่วมกับนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง นำโดยนักการเมืองคนสำคัญ ซึ่งที่เป็นข่าวปรากฏว่าร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองกับคุณจตุพร นั่นเอง”

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกคลิปสาธยายจุดแยกทางแกนนำ นปช.
“ผมนั่งฟังจนจบแล้ว ก็ทักท้วงขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับขบวนการของเราที่เดินกันมา เพราะเราไม่เคยคุยกันอย่างจริงจังว่าเราจะตั้งพรรคการเมือง ผมจึงเสนอไปว่าเรื่องนี้ควรต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำ นปช. ถ้าหากไปตกลงกันไว้ก่อน มันไม่ใช่วิถีทางที่เรายึดถือปฏิบัติร่วมกันมา บรรยากาศตอนนั้นก็เริ่มกลายเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีเซนส์ว่าภารกิจนั้นจะเดินต่อไปด้วยความลำบาก และถึงที่สุดคงไม่ประสบความสำเร็จ จังหวะหนึ่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ก็เดินตามไป ผมบอกพราหมณ์ว่าเป็นห่วงใยอย่างยิ่งในเรื่องที่เราคุยกัน และเรื่องนี้จะมีการต้มกันครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของผมในตอนนั้น คือ ระวังกลุ่มที่มาชวนคุณจตุพรนั่นแหละ จะต้มกัน และภายหลังก็ทราบว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสูง ตั้งแต่ส่งรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างไรผมไม่ก้าวล่วง หลังจากนั้น ผมก็เสนอไป 2-3 ครั้ง ในไลน์กลุ่มของแกนนำ นปช.ว่า เรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำ นปช. ซึ่งอาจารย์ธิดาก็เห็นตรงกันว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมตามวิถีของเรา แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่มีการประชุมนัดหมายแกนนำ นปช.อีกเลย ขณะที่วาระของพรรคเพื่อชาติก็ยังเดินทางต่อไป”

“เรื่องของพรรคเพื่อชาติ ผมได้ติดต่อไปยังนายกฯ ทักษิณ ว่า ท่านมีแนวทางให้ทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอยากตรวจสอบ เราไม่ได้ไปด้วยกับพรรคเพื่อชาติ เพราะไม่ได้มีการหารือกันตั้งแต่ต้น เวลานั้นยังไม่มีเรื่องพรรคไทยรักษาชาติ...ซึ่งเราเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติในภายหลัง โดยการพูดคุยกันได้ข้อสรุปรวมกัน ดังนั้น จุดแยกที่สำคัญขององค์กร นปช.จึงอยู่ที่กระบวนการในการทำงานซึ่งเราไม่ได้รักษาวิถีแห่งเรา ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประชุมใดๆ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญ

ภาพ ตู่-เต้น ในอดีตสมัยเป็น แกนนำ นปช. จากแฟ้ม
นี่เป็นข้อเท็จจริงยังผลให้องค์กรนำของ นปช. ไม่คงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปี ผมไม่มีเจตนาจะหาคนถูกคนผิดในเรื่องนี้ แต่เหตุผลของผม ก็คือ ความจริงมันต้องถูกบันทึก และนำเสนอ ผมกับพี่น้องแกนนำ นปช.ที่เรายังทำงานการเมืองร่วมกัน เราก็รักษาแนวปฏิบัติเดิม คือ มีอะไรเราก็ต้องหารือร่วมกัน เราเห็นว่า เหตุการณ์ที่เป็นจุดแยกของแกนนำ นปช.เป็นเรื่องสำคัญต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนรอบด้าน”

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ ว่า “ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุกทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกัน ก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้ ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกัน ก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกฯ"

“เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออกต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกลากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดงถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญ มีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี”

ภาพ นายวันชัย สอนศิริ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ ระบุว่า

“ถึงแลนด์สไลด์ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ

เคยพูดแล้วว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์แล้วไง...ให้ได้ถึง 250 เสียงก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้ บวกกับก้าวไกลให้อีก 50 กว่าเสียงก็ยังไม่ถึง 376 เสียง ยังไงๆ ก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี จะเอามวลชนมากดดัน ชุมนุมประท้วง ชูอุ๊งอิ๊ง ชูทักษิณ ชูเศรษฐา มาเป็นหัวหอกจะไหวมั้ยในสถานการณ์อย่างนั้น จะปลุกคนเสื้อแดง ปลุกคนรักทักษิณมาเขย่าเพื่อจะตั้งรัฐบาลให้ได้ คนจะเอาด้วยหรือเปล่า ตอนเลือกตั้งกับตอนเป็นรัฐบาลมันต่างกันนะ ตอนหย่อนบัตรอำนาจเป็นของประชาชน ตอนเป็นนายกฯเป็นรัฐบาลอำนาจมันอยู่ที่มือของ ส.ส. ส.ว. จะมาเย้วๆ ไชโยโห่ร้องเหมือนตอนปราศรัยหาเสียงคงไม่ได้ และจะมาตะโกนแลนสไลด์ๆ ในรัฐสภาก็คงไม่ได้เช่นกัน ยิ่งบอกว่าจะให้อุ๊งอิ๊งเป็นคนประกาศว่าทักษิณจะกลับบ้านเมื่อไหร่และจะเป็นคนนำทักษิณกลับบ้าน ผมว่ายิ่งไปกันใหญ่ ทั้งทักษิณและสายสิญจน์ก็จะมาพร้อมๆกันในสถานการณ์นั้น ยิ่งใจเร็วด่วนได้จะพากันแลนด์สไลด์ตกนรกหมกไหม้กันไปเปล่าๆ

ผมเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังแตะมือกันไว้ ถ้าเลือกตั้งแล้วรวมเสียงกันได้เกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส. พลเอก ประยุทธ์ ก็อาจจะนอนมาเป็นนายกฯต่อไป แต่ดูแล้วรวมไปรวมมาไม่น่าจะถึง แตกไปพรรคโน้นพรรคนี้และเสียงของพรรคร่วมเดิมเป็นมาแล้ว 4 ปีก็ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเก่า เอามารวมกับ ส.ว.อาจได้เกิน 376 ก็จริง แต่จะทนแรงเสียดทาน กระแสประชาธิปไตยทั้งในและนอกสภาได้หรือไม่ ความสับสนอลหม่านจะเกิดขึ้นหรือเปล่า เป็นอันว่าทั้งแลนด์สไลด์และใช้วิธีนี้ก็มีเรื่องได้ทั้งนั้น ทักษิณและเพื่อไทยก็ควรจะกลืนเลือดบ้าง ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อำนาจ ส.ว.ก็เหลือแค่ปีครึ่ง ถึงตอนนั้นเพื่อไทยก็ใหญ่คับสภาแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ต้องประนอมอำนาจกัน เชื่อว่า พลเอก ประวิตร พลังประชารัฐจะเป็นผู้ประสานทั้งภูมิใจไทย เพื่อไทย ร่วมกันเป็นรัฐบาล นอกนั้นรวมทั้งก้าวไกลด้วยก็อาจเป็นฝ่ายค้าน สมการการเมืองจะลงตัวในลักษณะนี้ในช่วงปีครึ่งถึง 2 ปี ทักษิณยังไม่ได้กลับบ้าน อุ๊งอิ๊งก็ไม่ได้เป็นนายกฯ... หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที...”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ กรณี “เจี๊ยบ ก้าวไกล” แชร์คลิป “ทักษิณ” ปลุกเสื้อแดงโค่นอำนาจรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยออกมาทำนองยุยง และประกาศจะมาร่วมต่อสู้ แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา เมื่อ 3 วันที่แล้ว ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของสื่อกระแสหลักอยู่ในเวลานี้

คำถามก็คือ เบื้องหลังการแชร์คลิปครั้งนี้ แม้ไม่ระบุข้อความ แต่ก็เท่ากับเป็นการนำมาเสียบประจานหรือไม่?

จึงทำให้น่าคิดว่า มีความไม่พอใจ “ทักษิณ” เรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะท่ามกลาง พรรคก้าวไกล สนับสนุนการต่อสู้เรียกร้องของ “ตะวัน-แบม” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ให้ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายยกเลิก ม.112 และ 116 ซึ่ง “เพื่อไทย” ยังไม่ขานรับในเรื่องนี้ แม้อยู่ฝ่ายค้านด้วยกันกับพรรคก้าวไกล และเรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย”

อีกกรณีหนึ่ง ที่น่าสนใจเช่นกัน ก็คือ ความแตกแยกของแกนนำ นปช. ซึ่งก่อนหน้านี้ แม้สังคมจะสนใจ แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดแจ้ง กระทั่ง “ตู่-จตุพร” แตกหักกับ “ทักษิณ” จึงนำเอาเรื่องนี้มาแฉ ทำนองถูก “ทักษิณ” แยกสลายแกนนำ นปช.

แต่ปรากฏว่า ความจริงที่ “จตุพร” เปิดเผยนั้น กลับเป็นความจริงคนละชุดกลับที่ “เต้น-ณัฐวุฒิ” ตอบโต้ โดยแฉ กลับ “ตู่-จตุพร” ว่า เป็นต้นเหตุ “ทักษิณ” ไม่เกี่ยว

แต่ที่สำคัญ ทั้งสองคนต่างอ้างว่า ได้สอบถาม “ทักษิณ” แล้วด้วยตัวเอง และทักษิณ ต่าง “การันตี” ในเรื่องที่ตนเองเปิดเผย

สรุปต้องมีใครสักคนโกหก และหลอกลวง ถ้าคนๆ นั้นไม่ใช่ “เต้น” กับ “ตู่” แล้วจะเป็นใคร?


กำลังโหลดความคิดเห็น