xs
xsm
sm
md
lg

“สนธิญา” ร้อง กกต.ฟัน “สมชัย-วีระ” พ่วงยุบเสรีรวมไทย ใส่ร้าย รทสช.เชื่อแค้น “บิ๊กตู่” เคยสั่งปลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตที่ปรึกษา ปธ.กมธ.กฎหมาย ร้อง กกต.เอาผิด “สมชัย-วีระ” พ่วงยุบเสรีรวมไทย กรณีใส่ร้าย รทสช.ปมประชุมใหญ่ เชื่อแค้นฝังหุ่น “ประยุทธ์” เหตุเคยถูกปลดพ้น กกต.

วันนี้ (23 ม.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย และ นายวีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์ด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่นของพรรคเสรีรวมไทย และพรรคเสรีรวมไทย ที่ยื่นร้อง กกต.ให้ตรวจสอบ 5 ประเด็นเกี่ยวกับการประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 ว่า เป็นการกระทำใส่ร้ายด้วยความเท็จทำให้เกิดความเสียหาย เข้าข่ายผิดมาตรา 101 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่าในประเด็นที่ นายสมชัย และ นายวีระ กล่าวหาว่า การประชุมในวันดังกล่าวได้มีการขนคนมาร่วมประชุมอาจผิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญนั้น มองว่ารัฐธรรมนูญให้สิทธิบุคคลในการรวมกลุ่ม ทำอะไรก็ได้ รวมถึงจัดตั้งพรรคการเมือง การบอกว่าการขนคนมีการให้ทรัพย์สิน เข้าข่ายจูงใจ จึงต้องให้ กกต.ตีความว่ากรรมการบริหารพรรคมีส่วนรับรู้หรือไม่

ส่วนการแจกหมวก แจกเสื้อ ตนเห็นว่า ในการประชุมดังกล่าวพรรคได้มีการเขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นทรัพย์สินของพรรค ดังนั้น ใครที่จะนำมาแจกจ่ายก็ต้องพึงระวัง และวันนั้นเป็นการประชุมใหญ่ของพรรคมีการรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นสมาชิกพรรค พรรคต้องการความสวยงาม จึงมีการแจกเสื้อ และหมวกให้กับผู้ที่มาร่วมงาน เพราะต้องการสื่อให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ เมื่อถึงเวลาจะเดินทางกลับหากมีการคืนสิ่งเหล่านั้นให้กับพรรคก็ไม่มีปัญหา สำหรับการปราศรัยของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ไม่ขอก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อยากให้ กกต.พิจารณาว่าสิ่งที่นายไตรรงค์ ถูกกล่าวหาจากนายสมชัย จริงหรือไม่อย่างไร

นายสนธิญา ยังกล่าวอีกว่า การที่ นายสมชาย อ้างว่า มีการเชิญนักร้องมาร้องเพลงช่วงพักการประชุมของพรรค เข้าข่ายจัดมหรสพนั้น เคยสอบถาม กกต.หลายคน ได้รับคำยืนยันว่าก่อนที่ผู้สมัคร และพรรคการเมืองจะได้เบอร์ที่ใช้หาเสียง การแห่กลองยาว ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่ถ้าได้เบอร์แล้ว แห่ออกมามีสิทธิที่จะโดนใบแดงดังนั้นการที่นักร้องขึ้นมาร้องเพลง ก็ต้องให้กกต.วินิจฉัยว่าเป็นการจัดมหรสพหรือไม่

ส่วนที่กล่าวหาว่าในการประชุมใหญ่ไม่มีการเซ็นชื่อของผู้เข้าร่วมประชุม เห็นว่า ไม่ว่าจะมีการเซ็นหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องรายงานใครให้ทราบ ยกเว้นรายงานให้กกต.ทราบเท่านั้น ซึ่งในวันที่มีการจัดงาน ทราบว่าพรรคได้มีการเชิญ กกต. ส่วนหนึ่งไปร่วมสังเกตการณ์อยู่แล้ว

“สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเชื่อว่า นายสมชัย ได้นำความรู้สึกโกรธ เกลียดชัง ไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นการส่วนตัว เนื่องจากเมื่อปี 2561 พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช.ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44 มีคำสั่งหัวหน้าคสช.ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.สร้างความโกรธเคียง โกรธแค้น ให้กับนายสมชัย มาเป็นลำดับ”

นายสนธิญา ยังยกตัวอย่างการกระทำของนายสมชัย ที่เห็นว่า เข้าข่ายโกรธแค้นเกลียดชัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่า เช่นเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 65 โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ไม่ถึงสิ้นเดือน ก.พ. 65 ซึ่งตนได้เข้าไปตอบโต้ว่าถ้าหากรัฐบาลอยู่เกินกว่าระยะเวลาที่ระบุ นายสมชัย พร้อมที่จะยุติการต่อว่ารัฐบาลหรือไม่ โดยหากรัฐบาลอยู่ไม่สิ้นเดือน ก.พ.จริง ตนก็พร้อมจะยุติการเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นกัน แต่ปรากฏว่า นายสมชัย ก็ไม่ได้รับคำท้าและยังมีการบล็อกเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน รวมทั้งการยุบสภาก็ไม่ได้เกิดขึ้นตามที่ นายสมชัย ระบุไว้ นอกจากนี้ วันที่ 23 ธ.ค. 65 นายสมชัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะทำให้พรรค รทสช.ถูกยุบ เพราะได้กล่าวว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรค ซึ่งก็ไม่จริง เพราะขณะนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และแม้ขณะนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสมาชิกพรรคแล้ว ทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช.ก็ยังไม่ได้มีการประกาศว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว การวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ของนายสมชัย เกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ สร้างความเคลือบแคลงให้สังคมเกิดความสงสัย ซึ่งไม่ทราบว่าทั้งนายสมชาย และนายวีระ กระทำในนามบุคคลหรือในนามพรรค จึงอยากให้ กกต.ตรวจสอบ หากพบว่า เป็นความผิดส่วนบุคคล มาตรา 101 กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนถ้าพบว่าพรรครู้เห็นเกี่ยวข้อง กกต.จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานก่อนที่ นายสนธิญา เดินทางมายื่นคำร้อง ได้มีการแจ้งผู้สื่อข่าวว่า นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบ้ อีสาน” อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะมาร่วมยื่นคำร้องดังกล่าวต่อ กกต. แต่ถึงเวลาพบว่ามีเพียงนายสนธิญา มายื่นคำร้องเพียงคนเดียว และอ้างว่า นายเสกสกล ตั้งใจมายื่นคำร้องด้วยตนเอง แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่า ติดภารกิจสำคัญไม่สามารถเดินทางมาได้ โดย นายเสกสกล ระบุว่า หาก กกต.เรียกเข้ามาให้ข้อมูลก็พร้อมที่จะนำเอกสาร หลักฐานมาชี้แจ้งว่า รทสช.ไม่ได้มีการกระทำอย่างที่นายสมชัย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น