“ตู้ห่าว” เจอเต็มคาราเบล ข้อหาหนัก ค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่-อาชญากรข้ามชาติ จังซี่มันต้องถอนสัญชาติไทย พร้อมเนรเทศด้วย ** “สามสี” จัดหนัก “สมชัย” หมั่นไส้ว่ะ ไอ้บ้านี่พูดมาก!!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ตู้ห่าว” เจอเต็มคาราเบล ข้อหาหนัก ค้ายา-ฟอกเงิน-อั้งยี่-อาชญากรข้ามชาติ จังซี่มันต้องถอนสัญชาติไทย พร้อมเนรเทศด้วย

คดีกลุ่มทุนสีเทา ชัยณัฐร์ หรือ “ตู้ห่าว” กรณ์ชายานันท์ ขาใหญ่กับพวก คืบไปอีกขั้น ใกล้จะอวสานเต็มแก่ เมื่อสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีจากตำรวจ “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” อัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งฟ้อง “ตู้ห่าว” กับพวก รวม 41 ราย ในฐานความผิด 9 ข้อหาหนัก

ไล่ไปตั้งแต่ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยกระทำการในลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม

- ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน


- ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

- สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน

- เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายดำเนินงาน ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

- ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

- ร่วมกันรับคนต่างด้าวทำงานโดยคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตให้ทำงาน โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

- ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

ฟังว่า อัยการสูงสุดได้มีคำสั่ง ที่ 86/66 ตั้งคณะทำงานในการดำเนินคดีต่อไปด้วย ซึ่งคดีนี้ อัยการสูงสุดได้ลงมาช่วยคณะทำงานทำงานทุกวัน แม้ในวันเสาร์-วันอาทิตย์ โดยไม่มีวันหยุดแล้วยังติดตามความคืบหน้าในทุกระยะ และกำกับการบริหารงานคดีให้เป็นไปตามกำหนดเวลา ตามกฎหมายได้ทัน

สำหรับข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น มีอัตราโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตและมีอายุความ 30 ปี


เรียกว่า “ตู้ห่าว” ขาใหญ่กลุ่มทุนจีนสีเทา และพวก โดนข้อหาหนักเต็มคาราเบล แต่อย่างไรก็ดี มีมุมมองจากอดีตผู้พิพากษามาว่า ควรพิจารณาดำเนินการถอนสัญชาติไทยตู้ห่าว หรือ ชัยณัฐร์ พร้อมกับเนรเทศไปด้วยเลย

กรณีนี้ไม่มีใครพูดถึง เพราะ “ตู้ห่าว” ยังถือสัญชาติไทย ถ้าถอนสถานะนี้ออกไปในคราเดียวกัน เชื่อได้ว่า จะเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดกับอาชญากรข้ามชาติรายนี้...จัดได้จัดไปเลยครับท่าน



** “สามสี” จัดหนัก “สมชัย” หมั่นไส้ว่ะ ไอ้บ้านี่พูดมาก!!

หลังจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดดลงสนามการเมืองเต็มตัว ระหว่างนี้ก็ออกเดินสายพบปะประชาชน ทั้งไปในฐานะนายกรัฐมนตรี และเตรียมที่จะไปนอกเวลาราชการในฐานะนักการเมือง... งานนี้ก็เลยเจอรายการเตะตัดขา ตอดเล็กตอดน้อย รบกวนสมาธิ จากฝ่ายตรงข้ามกันบ้าง


อย่างล่าสุด “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต. ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็น ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย ก็ควงคู่ “วีระ สมความคิด” ไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบการจัดประชุมใหญ่ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งในวันนั้นเป็นวันที่ “บิ๊กตู่” ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมขึ้นเวทีเปิดใจว่าทำไมต้องไปต่อ ว่า มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ โดยขอให้ กกต.ตรวจสอบใน 5 ประเด็น

อาทิ ระดมใช้รถขนคนมาฟังบิ๊กตู่ปราศรัย เลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ ...แจกเสื้อแจกหมวก...นำศิลปินมาขึ้นเวทีร้องเพลง...องค์ประกอบไม่เข้าลักษณะการประชุมใหญ่ แต่เป็นการจัดเวทีหาเสียงมากกว่า ... และ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค รทสช. ขึ้นเวทีปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย...

“สมชัย” ไม่ได้ระบุว่า 5 ประเด็นที่นำมาร้องเรียนนั้น ผิดกฎหมายเลือกตั้งข้อไหน อย่างไร แต่อยากให้ กกต. ตรวจสอบ แล้วมีคำวินิจฉัยว่า สิ่งเหล่านี้สามารถทำได้หรือเปล่า จะเป็นบรรทัดฐานให้กับพรรคการเมืองอื่นๆ ถ้าไม่ผิดจะได้นำไปใช้บ้าง แต่ถ้าเห็นว่าทำไม่ได้ ก็ขอให้ กกต.มีมติ เพื่อส่งต่อไปยังศาลฎีกา ให้มีคำพิพากษาต่อไป

งานนี้เรียกว่าไม่ได้หวังผล แต่หวังแสงก็คงไม่ผิดนัก!!

สำหรับ “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” อดีตกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลาออกจากสมาชิกและทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลว่า “อยากมีลมหายใจเป็นของตัวเอง” จากนั้นมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และได้รับการแต่งตั้งจาก “บิ๊กตู่” ให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี


วันนั้น “ไตรรงค์” มีคิวขึ้นเวทีปราศรัย ระหว่างรอ “บิ๊กตู่” เดินทางมาถึงศูนย์ประชุมฯ แน่นอนว่า “นักปราศรัย” มือเก่าดาวสภา ที่แม้จะว่างเว้นจากเวทีไปหลายปี แต่ถ้าได้จับไมค์เมื่อไหร่ ก็ไม่เคยทำให้ผู้ชมผู้ฟังผิดหวัง ปล่อยลีลา ภาษา ตาม “สไตล์ไตรรงค์” ที่ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เรื่องภาษาพ่อขุนฯ เรื่องมีสัตว์เลื้อยคลานปะปนมาบ้างนั้นเป็นเรื่องปกติ รอจังหวะเฮกันได้เลย

เมื่อถูก “สมชัย” หยิบยกมาเป็นประเด็น ถึงขั้นเอาไปร้องเรียนต่อ กกต. “ไตรรงค์” ก็ถึงกับเดือดดาลในอารมณ์

“...เรื่องไม่เป็นเรื่อง ...ไปร้องก็ช่างหัวมันปะไร นี่แหละคำตอบผม เพราะผมเป็นคนอย่างนี้ ช่างหัวมึง มึงไปร้องที่ไหนก็เชิญ ก็ผมมันเด็กบ้านนอก ผมไม่ใช่ลูกผู้ดีนะ...เชื่อว่าไม่กระทบกับพรรค จะด่าก็ได้ จะเตะก็ได้ ผมทำได้หมด...ถ้าเป็นที่ปักษ์ใต้ ผมด่าแม่เลย ไปถามคนที่ปักษ์ใต้ก็ได้ นี่แหละไตรรงค์...”

แล้วถ้า กกต.เชิญไปให้ข้อมูลจะไปหรือไม่ ...ถ้าเชิญมาก็ไป แต่ดูก่อนว่าถ้าไม่ไป ผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ไป!!
สุดท้ายอยากจะฝากอะไรไปถึงผู้ที่นำเรื่องไปร้องหรือไม่...“ไม่ฝาก ไม่อยากพูดด้วย หมั่นไส้ว่ะ ไอ้บ้านี่พูดมาก”

แม้จะทำตัวโลว์โปรไฟล์ไปนาน แต่เมื่อถึงคราวที่สปอตไลต์ส่องมา ก็จะได้เห็นกันว่า นี่แหละ “สามสี” ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ตัวจริง เสียงจริง