อดีต กกต. จี้ กกต.รุ่นน้อง เร่งประกาศเขตเลือกตั้งให้ชัด ทำได้ไม่ต้องรอ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ชี้ ต้องจัดการให้เลือกแล้วจบ เป็นธรรม ปชช.ยอมรับ จ่อบุกพุธหน้า ถ้าไม่มีความคืบหน้าแจงงานเปิดตัว “บิ๊กตู่” ซบ รทสช. มองเข้าข่ายผิด กม.เลือกตั้ง ขนคนนับหมื่น ฟังปราศรัย-แจกเสื้อ-แจกเงิน รับผิดหวังที่เงียบ
วันนี้ (11 ม.ค.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ยังปฏิเสธตอบคำถาม ว่า กกต. จะประกาศเขตเลือกตั้งที่ชัดเจนเมื่อใด หลังจากทราบจำนวนราษฎรโดย นายสมชัย ยังถามกลับว่า ต้องไปถาม กกต.ไม่ใช่มาถามตน แต่หากดูจากประสบการณ์ จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
“ตอนนี้เขตการเลือกตั้งต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง ไม่มีใครรู้ สมมติมีการติดตั้งป้ายหาเสียงได้ จำนวน 2 เท่าของหน่วยเลือกตั้งนั้น แต่เขตเลือกตั้งยังไม่รู้เลย มันจึงกลายเป็นปัญหา”
ทั้งนี้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งที่เป็นธรรมที่สุด นอกจากเรื่องความสุจริตโปร่งใส จะต้องทำให้การเลือกตั้งนั้นเป็นที่ยอมรับของประชาชน เป็นทางออกของบ้านเมือง คือ เลือกแล้วจบ ว่า ใครจะมาเป็นรัฐบาลเป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งในขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบการทำงานของ กกต. ด้วยสาเหตุนี้อาจจะทำให้ประชาชน ยังไม่รู้สึกเชื่อมั่นใน กกต. เท่าที่ควร โดยเฉพาะปัญหาหลายอย่างในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพในการจัดการเลือกตั้ง
นายสมชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตอบคำถามเรื่องการจัดประชุมและเข้าสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ชี้แจง กกต. นั้น หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี ตนจะบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคการเมือง เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องมาชี้แจงในเรื่องนี้ ตัวนายกรัฐมนตรีเป็นแค่คนๆ หนึ่ง ที่มาสมัครชิกพรรคในวันนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดงาน ซึ่งที่เกิดขึ้นตนยังไม่ได้บอกว่าการจัดงานเป็นสิ่งที่ผิด เพราะมีแนวปฏิบัติของ กกต.ในอดีตอยู่ เพียงแต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลายเรื่อง มีโอกาสที่จะเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ กกต. ต้องมาตอบคำถามให้ชัดเจน
นายสมชัย ระบุว่า เรื่องแรก คือ การที่มีรถบัส รถตู้นับร้อยคัน ขนคนนับหมื่นคน มาฟังคำปราศรัยของ พล.อ.ประยุทธ์ กกต. ต้องออกมาตอบว่าทำได้หรือไม่ หากทำได้จะต้องบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายเป็นต้นทุนในการหาเสียง หากทำไม่ได้ก็ถือเป็นว่ามีความผิดเกิดขึ้นแล้ว
เรื่องที่ 2 หากมีการจัดเลี้ยงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้สิ่งของ น้ำดื่ม กับคนที่มาร่วมงาน สามารถทำได้หรือไม่ เพราะอยู่ในช่วง 180 วัน ก่อนครบวาระ ซึ่ง กกต.เคยประกาศแล้วว่าต้องระมัดระวัง โดยกรณีอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(4)
เรื่องที่ 3 สมมติ มีการจ่ายเงินให้กับผู้มาร่วมงาน 300-500 บาท นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการแจกเสื้อ “เราจะเห็นว่ามีการแจกเสื้อเป็นสีขาว สีแดง และสีน้ำเงิน ให้กับคนที่มาฟังปราศรัย โดยแบ่งเป็นโซนนั่งชัดเจน เป็นรูปธงชาติ คำถามคือแจกได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นใครไปฟังปราศรัยก็แจกของกันเต็มเลย ก็จะกลายเป็นปัญหาขึ้นมา”
เรื่องสุดท้าย คือ คำปราศรัยของ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจไปคาบเกี่ยวกับเรื่องสถาบันและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงเรื่องการนำศิลปินขึ้นมาแสดงบนเวที จะถือเป็นมหรสพหรือไม่
นายสมชัย ย้ำว่า ตนจะรออีก 1 สัปดาห์ เพื่อฟังคำตอบจาก กกต. ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมาสามารถทำได้หรือไม่ หากไม่ได้รับคำตอบจะไปทวงถามที่ สำนักงาน กกต.ด้วยตัวเองในวันพุธที่ 18 ม.ค. ซึ่งเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้คนไปร้อง กกต.สามารถหยิบยกขึ้นมาตรวจสอบเองได้ และตนเชื่อว่า วันที่มีการจัดประชุม มีคนของ กกต.เข้าไปสังเกตการณ์และบันทึกภาพไว้ทั้งหมดแล้ว เพื่อนำส่งเรื่องไปที่ กกต.ให้ความเห็น
“ต้องตอบว่าทำได้ หรือทำไม่ได้ ไม่ใช่แค่บอกว่าเขาคุยกันแล้ว อย่างที่ นายกฯบอก เขาคุยกันแล้ว”
นายสมชัย มองว่า จนถึงวันนี้ กกต.ยังเงียบอยู่ ถือว่าผิดหวัง ต้องพูดให้ชัดว่าทำได้หรือทำไม่ได้ ผิดหรือถูกก็ขอให้พูดมา
เมื่อถามว่า เรื่องที่กล่าวมา เรื่องใดเข้าข่ายมีความผิดมากที่สุด นายสมชาย ระบุว่า ตนขอไม่ตอบ แต่ทุกเรื่องอาจเข้าข่ายได้หมด พร้อมปฏิเสธตอบว่า หากพบความผิดจะถึงขั้นยุบพรรคหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ กกต. ต้องเป็นคนชี้แจง หากจะมีความผิดถึงขั้นยุบพรรค ต้องดูว่าใครเป็นคนกระทำ แต่อาจส่งผลถึงกรรมการบริหารพรรค และ หาก กกต. เห็นว่าเข้าข่ายก็ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย