“บิ๊กตู่” ส่งวิปคุยสภา เคาะวันอภิปราย ชี้ ไม่ใช่เวทีสู้กันทางการเมือง ไม่สนใครจะเป็นองครักษ์พิทักษ์หรือไม่ หลังย้ายพรรค ขอ ส.ส.ทำหน้าที่เอาบ้านเมืองเป็นหลัก เชื่อมือฝ่าย กม.รทสช.ก่อนจัดกิจกรรม อุบยุบสภา บอกทุกคนรู้ กม.ไม่กระทบ ส.ส.สังกัดพรรคใหม่ทันแน่นอน ยันไม่ต้องเคลียร์ใจ “ลุงป้อม” การเมืองกับความผูกพันคนละเรื่องกัน โยน ปชช.ชี้ชะตาได้ไปต่อหรือไม่
วันนี้ (11 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายกฯกำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติของฝ่ายค้าน ว่า เป็นเรื่องของการหารือร่วมกัน ซึ่งสุดแล้วแต่ทางสภาว่าอย่างไร ขึ้นอยู่กับวิปรัฐบาลที่จะไปหารือกัน ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นเป็นต้นเดือน ก.พ.ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เมื่อวานเขาว่าอย่างไร สื่อได้เสนอข่าวไปแล้วไม่ใช่หรือ เมื่อถามอีกว่าให้เวลาฝ่ายค้านกี่วัน นายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ตนให้หรือไม่ให้ ขึ้นอยู่กับสภาจะตกลงกันว่าอย่างไร ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จะกี่วัน แต่ตนคิดว่าวันเวลานี้อย่าให้มันมากนักเลย ไม่ใช่การต่อสู้กันทางการเมือง มันไม่ใช่ บ้านเมืองกำลังมีปัญหา ฉะนั้น ทุกปัญหาต้องดูว่าได้แก้ไขอะไรไปแล้วบ้าง ถ้าพูดกันแต่เรื่องที่ไม่ดีมากๆ นัก ทุกอย่างมันก็รวนไปหมด หาสิ่งดีๆ กันให้เจอบ้างสิ มีเยอะแยะไป
เมื่อถามว่า นายกฯ จะตอบเองทุกคำถามหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของตน มันเป็นการตัดสินใจของตนในสภา คือ อย่าถามคำถามล็อกๆ ตนแบบนี้ ตนตอบไม่ได้หรอก ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าตนจะตอบหรือไม่ตอบ และจะตอบอย่างไร หลายอย่างเป็นสิ่งที่กล่าวมาหลายปีแล้ว ทุกครั้งที่มีการอภิปรายก็จะเป็นอย่างนี้ และเวลาตนพูดก็ไม่ฟัง
เมื่อถามว่า นายกฯกังวลหรือไม่ ตอนนี้ไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ตนจะกังวลเรื่องอะไร เมื่อถามย้ำว่า อาจจะไม่มีองครักษ์พิทักษ์เหมือนแต่ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนทำประโยชน์เพื่อคนส่วนรวม ใครจะพิทักษ์ไม่พิทักษ์ก็ตามใจก็แล้วแต่ ซึ่งก็ถือว่าเป็นบทบาทและหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคนต้องช่วยกันเอาบ้านเมืองเป็นหลักไว้ก่อนก็แล้วกัน เมื่อถามว่า นายกฯยินดีที่จะตอบคำถามใช่หรือไม่ แม้บางเรื่องจะซ้ำของเดิม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อถามกลับไปกลับมา
เมื่อถามถึงกรณี นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดกิจกรรมของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายกฯ กล่าวว่า เขาชี้แจงไปแล้วนิ ฝ่ายกฎหมาย ทาง กกต.เขาคงปรึกษากันแล้วอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เมื่อถามว่า วันนี้ นายกฯยังมั่นใจหรือไม่ว่าจะอยู่บริหารประเทศให้ครบเทอม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนพูดไปแล้วไม่ใช่หรือ ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจใช่ไหม ตนจะอยู่ต่อหรือไม่ เมื่อย้ำถามว่า หมายถึงการบริหารประเทศจะอยู่จนครบเทอมหรือไม่ ยังมีความตั้งใจแบบนั้นไหม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่เพื่ออะไร ถ้าจำเป็นต้องอยู่ก็ต้องอยู่ให้ครบ เมื่อถามว่า จะอยู่ให้ครบเทอมวันที่ 23 มี.ค.นี้ เลยหรือไม่ หรือจะยุบสภาก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนถามว่าคำถามแบบนี้ประชาชนได้อะไร เมื่อถามว่า ประชาชนรอเตรียมเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เลือกตั้งคือเลือกตั้ง ว่ากันไปตามกระบวนการเลือกตั้งใช่ไหมเล่า เมื่อถามว่า ส.ส.ก็รอฟัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของเขา ตนก็เห็นเป็นอย่างนี้มาตลอด
เมื่อถามว่า ส.ส.อยากเห็นความชัดเจน เนื่องจากมีกฎหมายเรื่องการสังกัดพรรคการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ดูให้อยู่แล้ว วันเวลาที่เหมาะสม วันเวลาที่เขาไม่มีปัญหาในเรื่องอะไรก็แล้วแต่ การเมืองก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ใช่เป็นที่สมัยนี้ซะเมื่อไหร่ เมื่อถามว่า หมายถึง ส.ส.จะสังกัดพรรคใหม่ได้ทันตามกรอบเวลาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทันอยู่แล้ว ตนไม่ทำให้เขาเสียหายอยู่แล้ว ทุกคนมีหลักการของตัวเองไม่ใช่หรือ
เมื่อถามว่า ในการทำกิจกรรมร่วมกับพรรค รทสช. นายกฯจะเริ่มเมื่อไหร่ ในเวลานอกราชการ พล.อ.ประยุทธ์ ทำสีหน้าเหมือนไม่อยากตอบคำถาม โดยกล่าวว่า “ผมก็ดูกฎหมายของผมอยู่แล้ว อย่าลืมว่าผมก็มีบทบาทของผมในการเป็นนายกฯ ก็ระมัดระวังอย่างที่สุดก็แล้วกัน อะไรที่เป็นเรื่องงานของรัฐบาลของนายกฯผมก็ทำต่ออยู่แล้ว เรื่องของพรรคก็เป็นเรื่องของพรรค ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเขาดำเนินการอยู่แล้ว ผมให้เครดิต”
เมื่อถามว่า กระแสตอบรับเป็นอย่างไร หลังจากเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามสื่อ จะมาถามอะไรตน เมื่อถามว่า มีฟีดแบ็กกลับมาบ้างหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า ฟีดแบ็ฏอะไร เมื่อถามว่า ในส่วนของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนอ่านในโซเชียลในสื่อก็พูดกันทุกวันอยู่แล้ว ท่านก็พูดกันทุกวันอยู่แล้วนิ ก็เรื่องของท่าน เมื่อถามว่า เป็นแคนดิเดตนายกฯแข่งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หนักใจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับท่าน เมื่อถามว่า ถ้าจะต้องเป็นแคนดิเดตนายกฯคู่กัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อ้าว แล้วมันเป็นไร เมื่อถามว่า อาจจะลำบากใจ เพราะเป็นพี่น้องกันแล้วมาแข่งกันเองในทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยมีปัญหากันอยู่แล้ว หลายคนก็พูดตนต้องมาเคลียร์ใจตอนเช้าก่อนเข้าห้อง ครม. ซึ่งห้องนั้นเป็นห้องก่อนประชุม ครม.ใครก็เข้ามาได้ ไม่ใช่ตนต้องไปเคลียร์อะไรหนักหนา คนเราถ้ามันมีความผูกพันก็อีกเรื่องหนึ่ง เรื่องการเมืองก็อีกเรื่องหนึ่ง ท่านก็เข้าใจ ตนก็เข้าใจ ต่างคนต่างเข้าใจ ก็จะอะไรกันหนักหนา
เมื่อถามว่า ก่อนที่นายกฯจะตัดสินใจไปพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็จะมีการประเมินกันแล้วว่า ส.ส.ที่จะได้มาต้องถึง 25 คน ในการเสนอชื่อนายกฯในส่วนของพรรคตัวเองในสภา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็รู้อยู่แล้วนิ ก็รู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ เมื่อถามว่า หมายความว่า นายกฯมีความมั่นอกมั่นใจใช่หรือไม่ ว่า พรรคนี้จะสามารถนำ ส.ส.เข้ามาได้ ตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน จะได้ 5 คน 10 คน 20 คน 25 คน อันนี้เท่าไหร่ตนไม่รู้ ตนจะไปรู้ใจประชาชนได้อย่างไร ต้องไปถามประชาชนโน่น เมื่อถามว่า ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พูดไปแล้วว่าคุยกันแล้ว คุยกันทุกวันนั่นแหละ เมื่อถามว่า หลังเลือกตั้งจะจับมือร่วมตั้งรัฐบาลกันหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงตรงนั้นวันหน้าค่อยว่ากันอีกที วันนี้เอาให้ผ่านพ้นไปก่อน
เมื่อถามว่า ถ้าให้นายกฯพูดในทางการเมืองตอนนี้ อยากจะพูดอะไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่อยากพูด เมื่อถามว่าทำไมถึงไม่อยากพูด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะเบื่อ เมื่อถามว่า นายกฯเบื่ออะไร นายกฯ กล่าวว่า เบื่อคำถามเธอไง