น่าผิดหวัง! “อัษฎางค์” ซัด รัฐบาล ไร้น้ำยาบี้ FB ปิดเพจตลาดหลวงถาวร ประชด “แพ้ปวิน” ทำอะไรไม่ได้เผย กลุ่มทุนยิวอเมริกัน อยู่เบื้องหลัง “ทักษิณ” ปลุกเลือกฝ่าย “ปชต.” มั่นใจหลายพรรคได้ 375 เสียง สกัด ส.ว.
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (11 ธ.ค. 66) นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค กรณีเฟซบุ๊กบล็อกกลุ่มตลาดหลวงมาร์เก็ตเพลส ของ นายปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ที่หนีคดีไปจากประเทศไทย แต่ไม่นานก็กลับมาเปิดใหม่ โดยนายอัษฎางค์ ระบุว่า
“มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง กล่าวถึงเรื่อง…“กระทรวงดีอีสั่งปิดเพจตลาดหลวงของปวิน ซึ่งเป็นเพจที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง แต่ปวินออกมาโพสต์ว่า กำลังคุยกับเฟซบุ๊ก แล้วเพียงแค่ 2 ชั่วโมงผ่านไป เพจตลาดหลวงก็กลับมาเปิดได้ใหม่”
“ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดกับผมมาหลายครั้งแล้ว และครั้งนี้ท่านก็ยืนยันเช่นเดิม พร้อมตัวอย่างเหตุการณ์ที่เพิ่มเกิดขึ้นนี้ ว่า ผมไม่แปลกใจตั้งแต่ตอนที่ปวินบอกว่า จะถาม FB ว่าจะทำอย่างไร !
“ก็เพราะ ปวิน เป็น player ตัวสำคัญ ที่ไอ้กันใช้ในการเปลี่ยนแปลงระบอบในไทย ไอ้กันโดยกลุ่มทุนยิวอเมริกัน คุมสื่อออนไลน์ มันคือ นายใหญ่ของปวิน ไม่แปลกใจครับที่มันสามารถเปิดใหม่ได้ภายใน 2 วัน คราวนี้รู้กันหรือยังว่าใครแบ็กอัป ปวิน
“คำถามคือ…ในเมื่อรู้กันอยู่ทั้งเขาและเรา ว่ามีใครเป็นตัวแสดงนำ ใครเป็นผู้กำกับ ใครเป็นผู้อำนวยการ ทำไมไม่จัดการหรือทำไมจัดการไม่ได้
“จริงๆ ทราบอยู่ว่ารัฐพยายามดำเนินการ แต่คงต้องเรียกร้องให้รัฐทำให้สำเร็จจงได้
“แบบนี้คงต้องชื่นชมว่า เฮ้ยปวิน เอ็งโครตเจ๋ง ยอมรับเลย รัฐบาลไทยทำอะไรเอ็งไม่ได้เลย
เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคไหนสัญญาว่าจัดการเรื่องนี้ได้ เลือกพรรคนั้น โอเค้!”
ขณะเดียวกัน นายโทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในประเด็น “เมืองไทยปี 2566 คนที่ทำอย่างแบด จน ปชช.แซดอย่างบ่อย จะได้ไปต่อไหม” ตอนหนึ่งระบุว่า เลือกตั้งครั้งนี้ เราต้องไปฟ้องประชาชนว่า ให้ประชาชนรับสตางค์ไปเลย แต่อย่าเลือกมัน ต้องเลือกฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้ 375 เสียงรวมกันแล้ว ถ้าได้ 375 เสียงเราก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่อง ส.ว.อีกเลย ถ้า ส.ว.จะเล่นลูกเล่นแบบไร้ยางอาย ซึ่งตอนนี้เขาด้านหมดแล้ว เขาอยากอยู่ในอำนาจอย่างเดียว เขาจะไม่สนใจหรอก
เพราะฉะนั้น ประชาชนจะต้องเป็นคนตัดสินใจดันให้ได้ 375 เสียง ตนคิดว่าทำได้ ขนาดตอนนั้นไทยรักไทย 377 ที่นั่งยังทำได้เลย พรรคเดียวด้วย ครั้งนี้หลายพรรครวมกัน 375 น่าจะทำได้
แน่นอน, การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นอีกครั้งที่ประชาชนจะได้ใช้อำนาจอธิปไตยในมือของตัวเองอย่างเต็มที่ ในการเลือกพรรคที่ใช่ และ ผู้สมัคร ส.ส.ที่ชอบ เป็น “ตัวแทน” เข้าสภา โดยเฉพาะ “นโยบาย” ที่คาดหวังเอาไว้ อาจมีทางเลือกในการเลือกตั้งครั้งหน้า
สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่แน่ อาจมีการเลือกแบบ “ยุทธศาสตร์” อยู่ไม่น้อย
เช่น เลือกฝ่ายตรงข้าม “คนแดนไกล” เพราะไม่ชอบ “รัฐบาลโกง” ไม่ต้องการให้กลับเข้ามามีอำนาจอีก
เลือกฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ตามกระแส “เบื่อประยุทธ์” หรือ ต้องการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
เลือก “ประยุทธ์” เพราะต้องการสกัด “3 นิ้ว” ที่ต้องการแก้ไข ม.112 และ “ปฏิรูปสถาบันฯ”
เลือก “รัฐบาลขั้วที่สาม” เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง ฯลฯ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร อยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่จะตัดสิน “แพ้-ชนะ” ในที่สุดนั่นเอง
