xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายบิลลี่” สุดมั่น “บิ๊กตู่” เดินต่อยาก คนเบื่อรัฐประหารกลับสู่ ปชต.แขวะไร้วิสัยทัศน์ได้ไม่ถึง 25 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พท. ฟันธง “ประยุทธ์” เดินต่อลำบาก คนเบื่อรัฐประหาร กลับเข้าเส้นทางประชาธิปไตย เย้ย นายกฯไม่มีวิสัยทัศน์ ได้ไม่ถึง 25 คน

วันนี้ (11 ม.ค.) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. (เขตทวีวัฒนา-หนองแขม) พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ข่าวการเมืองตลอดช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดูจะชักเข้าชักออกไม่ยอมเปิดตัวเสียทีกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะไม่รู้ว่ามัวแต่จะดูฤกษ์งามยามดีตามซินแส หรือ กล้าๆ กลัวๆ ที่จะประกาศตัวเองออกหน้าว่าเป็นนักการเมือง มาทำการเมือง มาทำพรรค และอยู่เบื้องหลังของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ที่แน่ๆ ดูแล้วคอการเมือง นักวิชาการ นักเลือกตั้ง ที่ติดตามสถานการณ์พอจะประเมินได้ว่าความนิยมของตัว พลเอก ประยุทธ์ นั้น เป็นอย่างไร

“แต่แล้ววันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้เห็นความจริงทั้งหมด คำที่เขาเคยหลอกลวงเราว่าเข้ามา ปฏิรูปการเมือง ขจัดทุจริต สร้างความสงบสุข สัญญาอีกไม่นานจะคืนอำนาจ ท้ายที่สุด พอเข้าด้ายเข้าเข็มกำลังมัวเมาในอำนาจ สุดท้ายก็กระทำการสืบทอดอำนาจปีแล้วปีเล่า ไม่รู้จบ บ้าอำนาจ กระหายอำนาจซะยิ่งกว่าที่ตัวเองเคยมี ท่าทีรังเกียจนักการเมืองเสียอีก แต่ท้ายที่สุด วันนี้ก็ต้องกลับมาใช้บริการนักการเมือง พรรคการเมือง เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดไว้เช่นนั้น คำพูดต่างๆ ที่เคยสัญญาให้คำมั่นเอาไว้ สุดท้ายไม่มีอะไรเป็นรูปเป็นร่างเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง แล้วพวกเราประชาชนยังจะหวังให้เขาอยู่ในอำนาจอีกหรือ” นายจิรวัฒน์ กล่าว

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าในปี 2566 จึงเป็นการปิดประตูและปิดเส้นทางชีวิตของ พลเอก ประยุทธ์อย่างสิ้นเชิงด้วยเหตุผลในการวิเคราะห์ของตน เช่นนี้
1. พรรคนี้เป็นพรรคเฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเปิดเส้นทางให้ พลเอก ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจต่อไปอีกให้เกิน 10 ปี
2. พรรคนี้ไม่มีกระแสการเมืองอย่างอื่น นอกจากได้ภาพของ พลเอก ประยุทธ์ ที่สะบักสะบอมเต็มตัวในช่วงกระแสข่าวลบๆ ที่ผ่านมา ก่อนการเปิดตัว
3. พรรคนี้เพิ่งก่อรูปและเปิดตัว พลเอก ประยุทธ์ ได้เสร็จในช่วงต้นมกราคม ซึ่งก่อนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอีกไม่ถึง 3-4 เดือนข้างหน้า การจัดตั้งเครือข่าย หัวคะแนน ทีมงาน เป็นไปได้ยากที่จะให้มีประสิทธิภาพ และแข็งแกร่งได้ครบทั้ง 400 เขต โดยเฉพาะการจะเจาะ ส.ส. ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ซึ่งรวมกว่า 250 ที่นั่งนั้น ค่อนข้างยากมาก
​4. นักเลือกตั้งอาชีพที่ดึงเข้ามาส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ และไปขโมยของเพื่อนร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และวันนี้ภาคใต้มีเพียง 58 เขตทั่วประเทศ ซึ่งวันนี้ไม่ได้มีเพียงพรรคประชาธิปัตย์ที่ยืนหนึ่ง แต่ยังมีพรรคภูมิใจไทยหายใจรดต้นคอทุกวันๆ ซึ่งสัดส่วนทั้งหมด 58 เขต จะต้องหารเฉลี่ยกันทั้ง 3พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์เดิม พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ รวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่คนใต้ก็เปิดใจรับขึ้นทุกวัน
​5. เดิมกลุ่ม 3 ป. นั้นอยู่รวมตัวกันในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐในช่วงการเลือกตั้งปี 2562 ได้ 8.4 ล้านเสียง จะต้องถูกหารเฉลี่ยออกไป เพราะพรรคขั้วอนุรักษนิยมมีมากขึ้นและตั้งมาแข่งกันเอง แต่เผลอๆ พรรคพลังประชารัฐตอนนี้ทรัพยากรถึงนักเลือกตั้งถึงอาจจะได้ ส.ส. เขตมากกว่า รวมไทยสร้างชาติ เสียอีก

“ดังนั้น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร การเมือง กระแสนิยม จะต้องวิเคราะห์เป็นช่วงๆ แต่ถ้าให้มองตอนนี้บอกได้เลยว่ายังไงก็ปิดประตู พลเอก ประยุทธ์ ไม่ถึง 25 คน เพราะประชาชนหูตาสว่างแล้ว ใครหละอยากจะโดนหลอก เงินในกระเป๋าก็ไม่มี หนี้ก็มาก ดอกเบี้ยก็เพิ่ม จากนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีวิสัยทัศน์ เขาไม่เอาแล้ว” นายจิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น