“อนุทิน” พอใจผลงานกระทรวงในกำกับ ให้ความเชื่อมั่นหน่วยงานช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม ดูแลพี่น้องประชาชน เผย คมนาคมลุยลงทุนเตรียมโครงสร้างพื้นฐานพร้อมรับนักท่องเที่ยว และเร่งผลักดันโครงการใช้ความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ดันไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าทั่วโลก
วันนี้ (7 ม.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ได้ติดตามผลงานขอกระทรวงในการกำกับดูแลตลอดปี 2565 และช่วงก่อนหน้า ทั้งสาธารณสุข คมนาคม การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าหน่วยงานในกำกับได้มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน
รองนายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับ โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายทุกหน่วยงานได้ประสานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่การแพร่ระบาดอยู่ในการควบคุม
ทั้งนี้ ในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดกระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันการลงทุนโครงการที่อยู่แผนหลายโครงการ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายต่างๆ รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สนามบิน ท่าเรือ ระบบโลจิสติกส์และการขนถ่ายสินค้า เพื่อเป็นเครื่องยนต์ประคองเศรษฐกิจได้ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงจากโรคระบาด และเตรียมประเทศให้พร้อมรับการกลับมาของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทันทีที่โควิด-19 คลี่คลาย
“รองนายกฯ อนุทิน มั่นใจว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมรับทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุน เพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกหน่วยงานไม่ได้หยุดรออะไร แต่เดินหน้าตามแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อพ้นโควิด-19 แล้วนักท่องเที่ยว นักลงทุนจะต้องมาประเทศไทย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ประเด็นที่ต้องมีการผลักดันในระยะต่อไป คือ การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่จะชิงใช้ความได้เปรียบหรือความโดดเด่นทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทยที่ตั้งอยู่กลางอาเซียน ทำให้นักลงทุนเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าไปทั่วโลกได้ด้วยการขนส่งผ่านระบบรางทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ถนน และมอเตอร์เวย์ เนื่องจากปัจจุบันไทยมีโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เหล่านี้เชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านตั้งแต่เหนือจรดใต้ และตะวันออกสู่ตะวันตก และหากผลักดันโครงการพัฒนาการขนทางรางกับการขนส่งทางทะเลเชื่อมระหว่างอ่าวไทยและอันดามันสำเร็จ จะเพิ่มศักยภาพและเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจการลงทุนประเทศไทยได้อีกมาก