xs
xsm
sm
md
lg

“ก้าวไกล” ถล่ม รฟท.ผลาญงบ 33 ล้าน “ศักดิ์สยาม” แจงเปลี่ยนชื่อตามประเพณี ขอเวลาตรวจสอบ ลั่นผิดก็คือผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ถล่ม รฟท.ผลาญงบ 33 ล้าน ด้าน “ศักดิ์สยาม” แจงเปลี่ยนชื่อตามประเพณี ขอเวลาตรวจสอบ ลั่นผิดก็คือผิด

วันนี้ (5 ม.ค.) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล กระทู้ถามสดด้วยวาจา ต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กรณีการเปลี่ยนชื่อป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่มีมูลค่าก่อสร้างสูงถึง 33 ล้านบาท ว่า ราคาก่อสร้าง 33 ล้านบาท แพงเกินไปหรือไม่ อยู่ดีๆ ทำไมขอเปลี่ยนชื่อ ป้ายเดิมใช้แค่ 3 ปี ยังใหม่อยู่ จะเปลี่ยนชื่ออย่างไร ก็ยังเรียกชื่อสถานีกลางบางซื่อเหมือนเดิม เหตุใดต้องเร่งเปลี่ยนชื่อทันที เมื่อได้รับพระราชทานชื่อ จนต้องใช้วิธีจัดซื้อเฉพาะเจาะจง ได้บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จํากัด (มหาชน) เป็นผู้ติดตั้ง หลังจากที่ รฟท.เพิ่งประกาศราคากลางมา 2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีหนี้ 2 แสนล้านบาท แต่ยังเปลี่ยนป้ายชื่อให้มีหนี้เพิ่ม ถือว่าเกินกว่าเหตุ เอาเงินมาใช้สุรุ่ยสุร่าย มือเติบเกินไป

“ทราบว่า บริษัท ยูนิคฯ ที่ได้งานนี้ รฟท.เพิ่งแพ้คดีให้บริษัทที่ฟ้อง รฟท. 7,500 ล้านบาท เมื่อปลายเดือน พ.ย. 2565 ปกติถ้ามีคดีพิพาทขนาดนี้ อย่าว่าแต่แค่จ้างกลับมาทำงาน หน้าก็ยังไม่อยากมอง แต่กลับเปิดโอกาสให้บริษัท ยูนิคฯ ได้งาน อัยการเคยเตือนให้ รฟท.ประนีประนอมกับบริษัท ยูนิคฯ แต่ รฟท.ไม่ทำ ถือว่าปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหาย ใครจะรับผิดชอบ ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำไมต้องรอ 15 วัน การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เป็นสูตรสำเร็จเอาตัวรอดแบบไทยๆ สุดท้ายรอดกันหมด”

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงรายละเอียดวงเงินการเปลี่ยนป้ายชื่อ 33 ล้านบาท ประกอบด้วย 1. งานรื้อถอนป้ายสถานีกลางบางซื่อเดิม 6.2 ล้านบาท 2. งานติดตั้งกระจกและโครงกระจกอะลูมมิเนียมใหม่ทั้งหมด มีราคาสู.สุด 24.3 ล้านบาท 3. งานออกแบบ 4. งานติดตั้งและรื้อถอนวัสดุปิดแทนกระจกระหว่างเปิดใช้งาน 1.6 ล้านบาท ยืนยันไม่ได้ว่าราคา 33 ล้านบาท ถูกหรือแพง เพราะไม่ใช่คนกำหนดราคา แต่ทุกคนไม่ได้ต่างกันในการเข้าถึงข้อมูล

ส่วนการเปลี่ยนชื่อป้ายเป็นเรื่องประเพณีปฏิบัติ เพื่อความเป็นมหามงคล ไม่ใช่ความต้องการของตน เหมือนการเปลี่ยนชื่อสนามบินหนองงูเห่า เป็นสนามบินสุวรรณภูมิ หรือสถานที่ราชการหลายแห่งก็ดำเนินการลักษณะนี้เช่นกัน ขณะที่การต้องจ้างบริษัท ยูนิคฯ เป็นผู้รับผิดชอบ เพราะโครงการสถานีกลางบางซื่ออยู่ในระยะประกันสัญญา จึงต้องให้บริษัท ยูนิคฯ ที่เป็นผู้ก่อสร้างเดิมในโครงการเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนกรณีที่ รฟท.แพ้คดีบริษัท ยูนิคฯ 7,500 ล้านบาทนั้น คดียังไม่ถึงที่สุด รฟท.ดำเนินการอุทธรณ์คดีอยู่ ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร จะแจ้งให้ประชาชนทราบแน่นอน ไม่มีปกปิด ผิดคือผิด ถ้าถูกก็ต้องดำเนินการต่อ ขอเวลาตรวจสอบเล็กน้อย






กำลังโหลดความคิดเห็น