ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ทรงอย่างแบด! "พี่นอท" จะว่าไง?งานเข้าเต็มๆ เมื่อ"ดีเอสไอ" จับแก๊งฟอกเงินโยงไป "กองสลากพลัส" !!
ขณะที่ศึกดรามา "แพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์" กำลังห่ำหั่นกันเป็นมหากาพย์ระหว่าง "กองสลากพลัส VS หงษ์ทอง" โดยมีประเด็น "รางวัลที่1ทิพย์" เอามาโพสต์บดขยี้บี้กันให้แหลกราญในโซเชียลฯ ทว่า เพียงชั่วข้ามวันต่อเนื่องมาจากเมื่อวาน ก่อนหน้าที่ได้ทีขี่แพะไล่คู่แข่งอย่าง "วี หงษ์ทอง" ฐิตาภา ธนทรัพย์ปรีชา ผู้บริหารหงษ์ทอง อยู่เหยงๆ วันนี้ดูแล้ว "นอท" พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ บอสใหญ่ซีอีโอของกองสลากพลัส เห็นที "หัวจะปวด" แน่ๆ
นั่นเพราะ ตัวละครที่ไม่คิดว่าจะโผล่กลับมาโผล่อะไรในตอนนี้ โดยเรื่องของเรื่องมาจาก "ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์" อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้กระทำความผิดเกี่ยวยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ และ อื่นๆ โดยมุ่งเน้นไปยังบุคคลที่ทำหน้าที่ในการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน หรือ "ฟอกเงิน" ให้กลุ่มอาชญากรรม ซึ่งศูนย์คดียาเสพติด ได้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ที่288/2565
หลังจากสอบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลที่ทำหน้าที่ในการโอน รับโอน หรือแปรสภาพทรัพย์สินให้กับอาชญากรรมผิดกฎหมายหลายประเภท มีวิธีทำด้วยการจัดหาบุคคลทั่วไปเปิดบัญชีธนาคารให้ หรือ "บัญชีม้า" จากนั้นจะทำการควบคุมบัญชีธนาคารดังกล่าวด้วยการเบิกถอนเงินสด แล้วนำไปส่งมอบให้กับกลุ่มอาชญากรที่ใช้บริการ โดยเรียกเก็บ "ค่าบริการ" เป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดเงินที่เบิกถอนได้ และมีบริการหลังการขายด้วยการติดตามทวงเงินจากกลุ่มลูกค้า
การสอบสวนยังพบว่า "บัญชีม้า" รายไหน แอบปิดบัญชี หรือนอกใจ ก็จะถูกทำร้ายร่างกาย บังคับทรมาน และถ่ายคลิปส่งให้ลูกค้าที่ใช้บริการดูเป็นประจำ
ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้จับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็น"หัวหน้าขบวนการ" รายสำคัญมาได้ 1 ราย และออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการไว้ อีก 5 ราย
จากการสอบสวนขยายผล พบว่าที่ผ่านมากลุ่มขบวนการดังกล่าวทำหน้าที่เบิกถอนเงินสด และนำไปเข้าบัญชีให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย โดยหนึ่งในผู้รับเงินจากกลุ่มขบวนการนี้ คือ "ผู้บริหาร" กิจการสลากกินแบ่งออนไลน์ “กองสลากพลัส” โดยปรากฏหลักฐานการรับเงินจากกลุ่มขบวนการนี้จำนวนหลายสิบล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะออกหมายเรียกผู้บริหาร “กองสลากพลัส” เข้ามาชี้แจง ในวันที่ 13 ม.ค.66 เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ว่ากันว่า การดำเนินการเรื่องนี้ของ ดีเอสไอ สอดคล้องกับคำสั่งของ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมที่ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชนและตรวจสอบเส้นทางการเงินของแพลตฟอร์มออนไลน์เอกชนว่ามีความเป็นมาอย่างไร
เรื่องนี้มา "ทรงอย่างแบด" เรียกว่า งานเข้าเต็มๆ ที่ "นอท" บอสใหญ่กองสลากพลัส โดยต้องรอดูจะมีดรามาอะไรตามมาอีกหรือไม่!
** คลื่นใต้น้ำทำ “พปชร.”กระเพื่อม เหตุแกนนำข้างตัว“ลุงป้อม”วางยุทธศาสตร์เลือกตั้งเพื่อพวกพ้อง จับตาเลือดไหลอีก
เมื่อประมาณสองสัปดาห์ก่อน พรรคพลังประชารัฐ ได้มีการอบรมว่าที่ผู้สมัครส.ส.หน้าใหม่ของพรรค ให้รู้ถึงแนวปฏิบัติในการหาเสียงเลือกตั้ง จะได้ไม่ทำผิดกฎหมายจนลามไปสร้างความเสียหายแก่พรรคได้
โอกาสนี้ “วิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรค แจ้งว่าในวันที่14 ม.ค.นี้ พรรคจะประชุมใหญ่สามัญประจำปี และจะมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะมีหลายคนที่ลาออกไปอยู่พรรคอื่น และจะให้กรรมการบริหารพรรคที่ลง ส.ส.เขต ลาออกด้วย โดยให้เหตุผลว่า เป็นการเสี่ยงที่ผู้สมัครส.ส.เขต เมื่องลงพื้นที่หาเสียง อาจไปทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จนทำให้ถูกยุบพรรคได้...แม้จะปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค แต่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม
ความคิดนี้ กรรมการบริหารพรรคหลายคนที่เป็น ส.ส.เขต ไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าตนเองก็ผ่านสนามเลือกตั้งมามากพอ ย่อมรู้ว่าอะไรผิด อะไรถูก อะไรทำได้ ทำไม่ได้ ... อยู่ดีๆ จะถูกปลดออกจากกรรมการบริหารพรรคด้วยข้ออ้างแบบ “คิดเอง เออเอง” แล้วตั้งพวกพ้อง คนใกล้ชิดของตน มาเป็นกรรมการบริหารพรรคแทน คงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครลุกขึ้นมาโวยวาย ได้แต่เก็บความอึดอัดไว้ในใจ
เพราะ “วิรัช รัตนเศรษฐ” เป็นรองหัวหน้าพรรค เป็นหัวหน้ากลุ่มโคราช ที่ถือว่าอยู่ในก๊วนเดียวกับ “กลุ่มมะขามหวานเพชรบูรณ์” ของ สันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค แล้วยังสนิทสนมกับสาย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา ด้วย และแม้ “วิรัช” จะติดบ่วงป.ป.ช. กรณี“สนามฟุตซอลฉาว” จนทำให้ชื่อเสียงเสียหายไประดับหนึ่ง แต่การที่ผ่านประสบการณ์เลือกตั้งมาอย่างโชกโชน ทำให้ “ลุงป้อม”ยังต้องพึ่งพาอาศัย ให้เป็นมือเป็นไม้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้
“วิรัช” จึงถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในการวางยุทธศาสตร์เลือกตั้ง รวมทั้งตัวบุคคลที่จะลงสมัครในพื้นที่ต่างๆ และทำท่าว่าจะกินรวบมาถึงพื้นที่กรุงเทพฯ ที่บอกว่า “ลุงป้อม” จะเป็นผู้ดูแลเองด้วย
ก็คงต้องจับตาว่าหลังการประชุมใหญ่ ปรับโครงสร้าง ตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แล้วจะเกิดแรงกระเพื่อมในพรรครุนแรงแค่ไหน จะมีเลือดไหลออกอีกหรือไม่ และ“กลุ่มสามมิตร”จะถูกลดทอนบทบาทลงจนถึงขั้นต้องโบกมือลาหรือไม่
ส่วนอีกพรรค คือ “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ลุ้นแล้วลุ้นอีกว่าเมื่อไร “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเสียที ...ล่าสุดก็มีความชัดเจนแล้วว่า ฤกษ์งามยามดี คือวันจันทร์ที่ 9 ม.ค.นี้ เวลา 17.00 น. “ลุงตู่” จะสมัครเป็นสมาชิกพรรค พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และมีจะส.ส.ที่ย้ายพรรคไปร่วม “รวมไทยสร้างตู่” หลายคนไปร่วมเปิดตัวด้วย
ก็ต้องคอยดูว่าผู้ที่ไปร่วมเปิดตัวพร้อม “ลุงตู่” มาจากพรรคไหนกันบ้าง จะมีเซอร์ไพรส์จาก “พรรคลุงป้อม” เพิ่มอีกหรือไม่
ที่ปากบอกว่า ไม่มีขัดแย้ง ไม่ใช่คู่แข่งขัน แต่วิถีการเมืองที่มีเป้าหมายอยู่ที่เก้าอี้นายกฯเหมือนกัน ทำให้ “ลุงป้อม-ลุงตู่” ต้องงัดกลยุทธ์ ออกมาวัดกัน ตามที่ว่าใครดี ใครได้ !!