“คีรี” นำ “บริษัท อู่ตะเภาฯ UTA” มอบเงินช่วยเหลือ 23 ครอบครัวกำลังพล เสียชีวิตเหตุ ร.ล.สุโขทัย อับปางครอบครัวละ 1 แสนบาท ผบ.ทร. ย้ำ ทร. มอบเงินช่วยเหลือทุกช่องทางตามระเบียบราชการ ตั้ง “ผู้ประสานงาน” กับทายาท เพื่อเข้าเป็น ขรก.ทหารเรือ ดูแลสิทธิต่างๆ
วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวกำลังพล กองทัพเรือที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดย นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) มีความประสงค์มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวกำลังพล ที่ได้รับความสูญเสียจำนวน 23 ครอบครัว ครอบครัวละ 100,000 บาท
พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวว่า วันนี้ ทร. ขอขอบคุณบริษัทที่ริเริ่มในการประสงค์มอบเงินบริจาคให้ครอบครัวกำลังพล ร.ล.สุโขทัย ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาเหล่านั้นเป็นกำลังพล ทร. ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล ปฏิบัติหน้าที่ช่วยประชาชน ตลอดชีวิตราชการด้วยความเสียสละเลือดเนื้อชีวิต ตามภารกิจ ทร. พร้อมย้ำถึงการมอบเงินช่วยเหยือเยียวยาตามระเบียบราชการ ทาง ทร. ดำเน้นการทุกช่องทาง อีกทั้งรับทายาทเข้ารับราชการ ทร. เพื่อดูแลครอบครัวไปตลอดชีวิต โดย ทร. ได้ตั้ง ‘ผู้ประสานงาน’ กับทายาททุกคน เพื่อดูแลสิทธิและผลประโยชน์ต่างๆ
นายคีรี กล่าวว่า ขอแสดงเสียใจครอบครัวผู้เสียชีวิต วันนี้เอากำลังใจมาให้ ไม่ใช่แค่มอบเงินซึ่งเป็นเงินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่มาด้วยความจริงใจ บริษัท ยูทีเอ เป็นพาร์ตเนอร์โครงการใหญ่ในสถานที่ของ ทร. ผู้เสียชีวิตต่างก็เป็นกำลังพลของ ทร. ลูกหลานท่านก็เหมือนลูกหลานเรา ที่ต้องช่วยกันดูแล ไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่า เสียใจ เป็นห่วง และ ขอให้สิ่งที่เกิดแล้วไม่เกิดขึ้นอีก
ด้าน พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัย ถูกพายุคลื่นลมแรงซัดจนเป็นเหตุให้เรืออับปางกลางทะเล บริเวณพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของกองทัพเรือ โดยมีกำลังพลเสียชีวิตรวม 24 นาย ในจำนวนนี้สามารถระบุชื่อได้แล้ว 23 นาย และสูญหาย 5 นาย
ทั้งนี้ ในส่วนของสิทธิกำลังพลและการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบนั้น ทางกองทัพเรือ โดย พล.ร.อ.เชิงชาย มีความเป็นห่วงครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงกำลังพลที่ยังคงสูญหายเป็นอย่างมาก โดยได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิกำลังพล ดำเนินการเพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน แก่ครอบครัวของกำลังพลในด้านต่างๆ ตามระเบียบข้อบังคับอย่างเร่งด่วน
โดยปัจจุบันกำลังดำเนินการเตรียมมอบเงินช่วยเหลือแก่ทายาทผู้สูญเสีย ประกอบด้วย เงินจากกองทุนน้ำใจไทย เพื่อผู้เสียสละในจังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่รับผิดชอบกองทัพเรือ เงินประกันภัยหมู่กองทัพเรือ เงินสวัสดิการกองทัพเรือ และ เงินฌาปนกิจกองทัพเรือสำหรับท่านที่เป็นสมาชิก และอีกส่วนหนึ่งที่จะมอบต่อไป คือ เงินตามสิทธิด้านกำลังพล เช่น เงินช่วยพิเศษ บำเหน็จตกทอด และบำนาญพิเศษ
ทั้งนี้ เป็นไปตามสิทธิด้านกำลังพลของกำลังพลแต่ละราย โดยมีขั้นตอนการเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และระเบียบแบบแผนที่ทางราชการกำหนด
ซึ่งโฆษกกองทัพเรือกล่าวว่ากองทัพเรือจะดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย
