xs
xsm
sm
md
lg

รมช.กห.เข้ารับฟังการบรรยายสรุปการค้นหา-ช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วันนี้ (21 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมารับฟังการบรรยายสรุปถึงผลการปฏิบัติและการดำเนินการในการค้นหากำลังพลที่ยังคงสูญหายจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง โดยมี พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมรับฟังการบรรยายสรุป และตอบข้อซักถาม ณ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม

พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า หัวข้อการบรรยายที่สำคัญในครั้งนี้ ประกอบด้วย การปฏิบัติการในการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพล รวมถึงแนวความคิดในการส่งกลับสายแพทย์และการเยียวยาแก่กำลังพลและครอบครัวกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

สำหรับยอดล่าสุดของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยทั้ง 105 นาย ปัจจุบันหาพบแล้ว 82 นาย พบว่าเสียชีวิต 6 นาย และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 17 นาย คงเหลือที่ยังคงสูญหาย 23 ราย

สำหรับการปฏิบัติการในการค้นหาและช่วยเหลือ ทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรืออากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศรวมถึงศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆเข้าร่วมในการค้นหา ซึ่งพื้นที่ในการปฏิบัติการโดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม

รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว โดยในวันนี้ ได้มุ่งเน้นเส้นทางทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในระยะ 40 ไมล์ทะเลจากจุดเรือจมโดยแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 11 พื้นที่ ปัจจุบันมีเรือในพื้นที่จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงกระบุรีรับผิดชอบพื้นที่ 6 และ 7 เรือหลวงนราธิวาสรับผิดชอบพื้นที่ 9 เรือหลวงนเรศวร รับผิดชอบพื้นที่ 10 และ 11 นอกจากนั้นในวันนี้กองทัพเรือได้ส่ง เรือหลวงตากสิน เข้าพื้นที่ เพื่อเสริมกำลังในการค้นหา ในขณะที่ ศรชล. ได้จัดเรือตรวจการชายฝั่งเข้าร่วมในการค้นหา โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมกับได้จัดกำลังเสริมประกอบด้วย UAV เพิ่มในการค้นหานอกจากนั้นในส่วนของ ศรชล. ได้มีการประสานไปยังสมาคมเรือสินค้าแจ้งให้เรือที่เดินทางในเส้นทางต่างๆ ช่วยตรวจสอบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่อาจพบในพื้นที่เดินเรือ

ในส่วนการส่งกลับสายแพทย์จะมีการนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งตัวเข้ามาที่ศูนย์ทัพเรือภาคที่ 1 ส่วนหน้าซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบางสะพาน จะมีแพทย์เข้าทำการประเมินในเบื้องต้นจะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลบางสะพาน หากมีอาการหนักจะใช้อากาศยานของกองทัพเรือนำส่งต่อให้กับโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ทำการรักษาต่อไป สำหรับผู้เสียชีวิตจะนำร่างลำเลียงโดย เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือมาทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ที่ศูนย์พิสูจน์อัตลักษณ์มูลนิธิสว่างศรัทธาธรรม อำเภอบางสะพาน สำหรับการเยียวยากำลังพลรวมถึงหน่วยงานอื่นๆ กองทัพเรือจากดำเนินการตามระเบียบทางราชการโดยรายชื่อผู้สูญเสียจะได้รับการชดเชยปูนบำเหน็จ ตามระเบียบราชการในภาพรวมคือจะได้รับการเลื่อนยศ 5 ชั้นยศ เช่นเกิดการสูญเสีย ในชั้นยศ นาวาตรีจะได้เลื่อนชั้นเป็นพลเรือโท และได้รับเงินชดเชยตามระเบียบของทางราชการประมาณ 1-2 ล้านบาทแล้วแต่สิทธิของแต่ละบุคคล

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพเรือ ดูแลกำลังพลที่ประสบภัยในขั้นต้น เสมือนกับเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งทุกเหล่าทัพต้องช่วยสนับสนุนการทำงานของกองทัพเรือในทุกด้าน และต้องปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ โดยได้ติดตามความคืบหน้าจาก ผู้บัญชาการทหารเรือ และเสนาธิการทหารเรือ มาโดยตลอด ตลอดจนนำเรียนนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเน้นย้ำว่าหากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับกำลังพลที่สูญหายให้รีบแจ้งให้ทางครอบครัวของกำลังพลทันที ซึ่งในส่วนของโฆษกกองทัพเรือ ยืนยันว่า"กองทัพเรือจะดูแลสิทธิกำลังพลของผู้สูญเสียอย่างเต็มที่"