โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชูนโยบาย “ประยุทธ์” วางแนวทางพัฒนาไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ยันรัฐเร่งดันพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจสีเขียว ขอบคุณทุกภาคส่วนทำรถ EV อยู่ในช่วงเติบโต ลั่นพร้อมหนุนออกนโยบายที่เหมาะสม
วันนี้ (2 ธ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผยว่า ด้วยนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่วางแนวทางในการพัฒนาประเทศให้ไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) และมีการลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผนวกเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับทิศทางสู่นโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน และความสอดคล้องเชิงนโยบายกับนโยบาย EV และพลังงานทดแทน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลเร่งผลักดันแนวทางพลังงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นสีเขียว รวมทั้งเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ผ่านนโยบาย 30@30 เพื่อให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน โดยภาคเอกชนตอบรับนโยบายและแนวทางสนับสนุนดังกล่าวของรัฐบาลเป็นอย่างดี มีนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยมากขึ้น
โดยบทวิจัยล่าสุดของ Arthur D. Little (ADL) บริษัทที่ปรึกษาระดับโลก (https://www.adlittle.com/.../global-electric-mobility...) เปิดเผย ‘ดัชนีชี้วัดความพร้อมด้านการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าทั่วโลก (Global Electric Mobility Readiness Index - GEMRIX)’ ประจำปี 2022 ว่า ไทยอยู่ในลำดับที่ 9 และถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศ ‘ตลาด EV กำลังเติบโต’ (Emerging EV Markets) มีคะแนนระหว่าง 40-60 คะแนน ซึ่งการสำรวจก่อนหน้าในปี 2018 ไทยอยู่ในอันดับที่ 13 แสดงให้เห็นว่า ในระยะเวลา 4 ปี ไทยมีพัฒนาการไปในทางบวกหลายอย่าง อาทิ นโยบายสนับสนุนที่เหมาะสมต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อใช้รองรับอุตสาหกรรม EV และวิถีใหม่ของผู้บริโภค ซึ่ง ADL ยังมอง และเชื่อมั่นว่า ไทยจะยังสามารถเป็นผู้นำด้านการผลิต EV ในระดับภูมิภาคได้ แม้จะยังมีความท้าทายบางประการอยู่อีก
“รัฐบาลขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ได้ทำให้อุตสาหกรรมรถ EV ของไทยอยู่ในช่วงเติบโต ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน และออกนโยบายที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เตรียมการรองรับความต้องการวิถีใหม่และเพิ่มมากขึ้นของผู้บริโภคในอนาคต โดยรัฐบาลพร้อมเดินหน้า รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนถึงแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ รวมถึงขยายการลงทุนเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยด้านความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม เพื่อความสมดุลของการเติบโตทางเศรษฐกิจแต่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” นายอนุชา กล่าว