ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ มีการพิจารณารายงานการศึกษา เรื่อง การศึกษาเทคโนโลยี 5G ซึ่งคณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการฯ ได้นำรายงานดังกล่าวกลับมาทบทวนและปรับปรุงเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า การพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี 5G มาปรับใช้ในโครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศ ซึ่งมีการจัดการประมวลคลื่นความถี่เพื่อรองรับโครงข่ายดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการผลักดันและขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ในการดำรงชีวิตของประชาชนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยี 5G ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังของโครงข่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้เกิดอัตราการส่งข้อมูลสูงสุดและลดความหน่วงของระบบลง ทำให้ความเชื่อมต่อของระบบการสื่อสารรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพในการรับ-ส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ สามารถกระทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้ หากรัฐบาลและภาคเอกชนตลอดจนประชาชนทั่วไปนำเทคโนโลยี 5G มาปรับใช้ในกิจการต่างๆ อย่างถูกต้องและเหมาะสมจะทำให้สามารถนำพาประเทศชาติไปสู่การพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้อย่างแท้จริง
ขณะที่สมาชิกส่วนใหญ่ได้อภิปรายแสดงความเห็นที่หลากหลาย โดยเห็นด้วยกับรายงานของคณะกรรมาธิการฯ ที่มีเป้าหมายการพัฒนาระบบเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเทคโนโลยี 5G มีความเกี่ยวข้องไปถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีในการสื่อสาร และด้านอื่นๆ ของไทย ดังนั้น การพัฒนาระบบเทคโนโลยี 5G จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศไปสู่แบบก้าวกระโดด และหากนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของประชาชนได้ จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
ที่สุดแล้วที่ประชุมฯ เห็นชอบกับรายงานดังกล่าวด้วยคะแนน 233 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี และงดออกเสียง 4 เสียง โดยจะนำข้อเสนอแนะต่างๆ เสนอต่อไปยังคณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการต่อไป