xs
xsm
sm
md
lg

“ปิยบุตร” รับร่างปลดล็อกท้องถิ่นหาเสียงให้ก้าวไกล ปัดมีรัฐเดี่ยว ย้อนโดนตัดสิทธิแต่คงมีสิทธิพลเมืองไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาฯ ก้าวหน้า แจงยิบ อย่าหาว่าสอนหนังสือสังฆราช ส.ว. ยันร่างปลดล็อกท้องถิ่นไม่ได้แก้ให้มีรัฐเดี่ยว แต่กระจายอำนาจไม่ให้ซ้ำซ้อน รับเรียกก้าวไกลหาเสียงก็ไม่แปลก เพราะ ปชช.เป็นคนเลือก ตอก “กิตติศักดิ์” แค่โดนตัดสิทธิการเมืองเข้าสภาได้ ยังเป็นพลเมืองไทย แม้ท่านไม่อยากให้เป็น

วันนี้ (30 พ.ย.) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วาระพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม หมวด 14 หรือร่างฯ ปลดล็อกท้องถิ่น ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมกับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 80,772 รายชื่อ เป็นผู้เสนอ

เวลา 18.00 น. นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ร่วมเสนอร่างดังกล่าว ใช้สิทธิอภิปรายชี้แจงต่อสมาชิกในหลายประเด็น ระบุว่า ร่างปลดล็อกท้องถิ่นที่ นายจเด็จ อินทร์สว่าง สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ลอกมาจากร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 โดยเฉพาะเรื่องการมีอยู่ของราชการในส่วนภูมิภาค ตนขอเรียนว่า มีสำนักวิชาการทำรายงาน เพื่อเปรียบเทียบว่า ร่างฉบับใหม่และฉบับเดิมแตกต่างกันอย่างไร ที่สำคัญ มีการเติมเนื้อหาในการจัดระเบียบพื้นฐานการกระจายอำนาจ เพื่อเป็นหลักประกันว่าประเทศไทยจะต้องเป็นรัฐเดี่ยวที่มีการกระจายอำนาจ นอกจากนี้ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นยังมีอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะแบบทั่วไปในท้องถิ่นของตนเอง

“มีการยืนยันชัดเจนว่า ที่ผ่านมา มีปัญหาเรื่องอะไร เราจำเป็นต้องเสนอแบบนี้ เป็นสิ่งที่เสนอเข้าไปใหม่ ไม่เช่นนั้น ไม่มีสมาชิกอภิปรายโต้แย้งคัดค้านจำนวนมากแบบนี้” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า กรณีที่ นายจเด็จ อภิปรายว่า ร่างในลักษณะนี้น่าจะสุ่มเสี่ยงเรื่องกระบวนการ เพราะไม่มีการจัดทำความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ตนขอชี้แจงว่ามีรายงานความคิดเห็นชัดเจน ไม่รู้จะชัดอย่างไรแล้ว

“อย่าหาว่าสอนหนังสือสังฆราช รายงานฉบับนี้จะแจกสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน และเขียนไว้ชัดเจนว่ารายงานแสดงความคิดเห็น ทำโดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผมไม่เดือดร้อนเพราะเป็นเพียงผู้ชี้แจง แต่เจ้าหน้าที่สภามีความกังวลก็เป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ และทำถูกต้องตามระเบียบ” นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร ยืนยันว่า ร่างกฏหมายฉบับดังกล่าวไม่มีการยกเลิกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่ในพระราชบัญญัติการปกครองท้องที่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ไม่ใช่ภูมิภาค โดยคำว่าภูมิภาคไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นอกจากนี้ หากร่างดังกล่าวถูกผลักดันขึ้นจริง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอาจจะมีสวัสดิการดีขึ้นด้วยซ้ำ อาจจะมีความสุขมากกว่านี้

ส่วนข้อกังวลว่าหากยกเลิกราชการส่วนภูมิภาคจะกระทบกับความเป็นรัฐเดี่ยว ของนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. นั้น นายปิยบุตร ระบุว่า ความเป็นรัฐเดี่ยวหรือสหพันธรัฐไม่ได้สัมพันธ์ยึดโยงกับราชการส่วนภูมิภาค ยกตัวอย่าง อังกฤษ และญี่ปุ่น ที่มีรัฐเดี่ยวแต่ไม่มีภูมิภาค

นายปิยบุตร ระบุต่อว่า ข้อเสนอต่างๆที่ทำงานวิจัยรวมทั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติก็เห็นปัญหาเช่นกัน ซึ่งแผนการกระจายอำนาจที่ระบุว่าโอนภารกิจ ไม่ใช่แค่โอนภารกิจ แต่ตามมาด้วยกฏหมายเป็น 100 ฉบับ และหากไม่ยกเลิกก็จะมีอำนาจซ้ำซ้อน ทำให้ต้องเอาให้ชัด

“ให้รัฐสภาไปแก้ให้เสร็จ หากไม่แก้ต้องถือเอาตามว่าท้องถิ่นนั้นมีอำนาจมาก่อน เพราะไม่ฉะนั้นเราก็จะวนแบบเดิม 20 กว่าปีที่ท้องถิ่นก็มีอำนาจ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคก็มีอำนาจ และซ้ำซ้อนกัน ดังนั้น ข้อเสนอเหล่านี้ จึงไม่ได้ไปสนใจว่าเราจะเลิกภูมิภาคหรือไม่เลิก แต่ผมเขียนขึ้นมาเพื่อจัดการปัญหาสภาพการกระจายอำนาจที่ไปไม่ได้สักทีใน 20 กว่าปี จัดการปัญหาอำนาจซ้ำซ้อนกันในส่วนกลางส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น”

ส่วนที่สมาชิกตั้งคำถามว่า เหตุใดถึงเสนอช่วงปลายสมัยการประชุมร่วมสภา เป็นการสร้างกระแสไปหาเสียงหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกหากจะหาคะแนนนิยม

“ทำไมถึงมาทำตอนนี้ สภาหมดอายุแล้ว บางท่านจินตนาการไปไกลถึงขนาดมาสร้างกระแสหรือไม่ หาเสียงหรือไม่ เจตนาใกล้จะเลือกตั้งอยู่แล้วแมาหาเสียงหรือไม่ ผมเรียนแบบนี้ว่าหาเสียงหาคะแนนไม่ใช่เรื่องผิดแปลก เพราะเขามาจากการเลือกตั้ง ไม่ให้เขาหาเสียงจากประชาชน จะไปหาเสียงจาก คสช. เหรอครับ ต้องหาเสียงกับประชาชนเพราะประชาชนเป็นคนเลือกมา” นายปิยบุตร กล่าว

แต่ในส่วนของตน ต้องการมาชี้แจงเพื่อนำปัญหาให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภารับทราบ ต้นไม่ได้บรรจุวาระการประชุม อำนาจบรรจุวาระการประชุมอยู่ที่สภา

ส่วนที่ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว. ชี้แจงว่า ผู้เสนอร่างกฏหมายถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามาสภาได้อย่างไร นายปิยบุตร ชี้แจงว่า เพียงแค่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็สามารถเข้ามานำเสนอได้ ตนโดนแค่สิทธิทางการเมือง แต่ยังมีสิทธิในพลเมืองไทย หวังว่าครั้งหน้าหากตนนำเสนอประเด็นอะไรอีก จะไม่มีคำถามลักษณะนี้แล้ว

“ผมโดนเพิกถอนสิทธิต่างๆ เฉพาะแค่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เฉพาะแค่เรื่องสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง สิทธิในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น รัฐมนตรี แต่ผมยังมีสิทธิในการเป็นพลเมืองไทยเต็มร้อย ยังมีสิทธิในการรักชาติรักบ้านเมืองในการเสนอต่างๆ มีสิทธิในการแสดงอภิปรายความคิดเห็น เพราะผมเป็นคนพลเมืองไทย ผมไม่ได้โดนตัดสิทธิความเป็นคน แม้ท่านอยากให้ผมอยากออกจากพลเมืองไทยก็ตาม” นายปิยบุตร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น