ปธ.คณะก้าวหน้า เผย 3 ประเด็นหลักขอแก้ รธน.ปลดล็อกกระจายอำนาจท้องถิ่น วอนสมาชิกรัฐสภาไฟเขียว ลั่น ถ้าโดนคว่ำให้ “ก้าวไกล” สานต่อเป็นนโยบายหาเสียง ด้าน “ปิยุบตร” ยันทุจริตน้อยลงแน่ ไม่กระจายการคอร์รัปชัน
เมื่อเวลา 09.09 น. ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ในฐานะตัวแทนของประชาชนผู้เข้าชื่อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมกันแถลงข่าวก่อนที่ที่ประชุมรัฐสภาจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ... เกี่ยวกับการปลดล็อกกระจายอำนาจท้องถิ่น ว่า ดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอปลดล็อคท้องถิ่น คาดว่า การพิจารณาจะเข้าสู่การพิจารณาไม่ช่วงเย็นของวันนี้ (29 พ.ย.) ก็เป็นวันที่ 30 พ.ย. พวกเราหวังว่าทุกท่านจะเห็นถึงความสำคัญของการกระจายอำนาจ ยุติการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง พวกเราตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านไปได้
นายธนาธร กล่าวต่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เสนอปลดล็อก 3 เรื่อง คือ 1. การจัดสรรภาษีให้เป็นธรรม โดยกำหนดส่วนแบ่งภาษีให้เป็น 50 ต่อ 50 ส่วนกลางครึ่งหนึ่งและท้องถิ่นอีกครึ่งหนึ่ง เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีงบประมาณดูแลอย่างเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ขยะ ศูนย์เด็กเล็ก ส่วนท้องถิ่นจะได้ไม่ต้องวิ่งของงบประมาณจากส่วนกลาง 2. เรื่องอำนาจทุกวันนี้มีคำสั่ง ประกาศกระทรวง และกฎหมายที่ออกจากส่วนกลางจำนวนมากโดยไม่ไว้ใจท้องถิ่น ไม่เปิดโอกาสให้ทำบริการสาธารณะออกแบบความต้องการการพัฒนาชุมชนตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านจะทำให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มที่ในการจัดการบริการสาธารณะของตัวเอง และ 3. ในร่างฉบับนี้จะเปิดให้จัดทำประชามติเพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้หาฉันทามติร่วมกันว่า ราชการส่วนภูมิภาคยังจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งจะเป็นการปรับปรุงราชการแผ่นดินครั้งใหญ่ของไทย
“หวังว่า สมาชิกรัฐสภาทุกคนจะให้ความเห็นชอบกับการแก้ไขครั้งนี้ ขอให้ลงมติผ่านวาระที่ 1 ไปก่อน แล้วหากไม่เห็นด้วยในประเด็นใดสามารถไปพูดคุยรายละเอียดได้ในวาระที่ 2 และถ้าไม่เห็นด้วยจริงๆ ก็ค่อยตีตกในวาระที่ 3 ได้”
เมื่อถามว่า หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน เตรียมแผนไว้อย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ยืนยันจะเดินหน้าต่อ เพราะพรรคก้าวไกลได้แถลงนโยบายการหาเสียงเรื่องการกระจายอำนาจไปแล้ว
ถามถึงความกังวลเมื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นสำเร็จจะทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน นายปิยบุตร กล่าวว่า ตัวอย่างการกระจายอำนาจที่ดี คือ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตอนแรกก็มีความกังวลในเรื่องนี้เช่นกัน แต่ปรากฏว่า เมื่อกระจายอำนาจแล้ว การทุจริตลดน้อยถอยลงไป ขอยืนยันสบายใจได้ มีงานวิจัยว่าการกระจายอำนาจไม่ใช่การกระจายการทุจริตคอร์รัปชัน