ต้องกำจัด! “ปวิน” แนะ บทเรียนที่ “อองซานซูจี-ตระกูลชินวัตร” ต้องเรียนรู้ การ “เกี้ยเซี้ย” อำนาจ “นอกรัฐสภา” “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ชี้ 4 สิ่ง “ทักษิณ” ซื้อไม่ได้ “หมอวรงค์” นักการเมืองไม่โกง-ขายชาติ ปท.พัฒนาติดจรวด
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (27 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า
“บทเรียนอันนึงที่ทั้งอองซานซูจี และตระกูลชินวัตร ต้องเรียนรู้ เมื่อคุณอยู่ในอำนาจ คุณต้องทำสิ่งที่ถูกต้อง คุณต้องกำจัดอำนาจนอกรัฐสภา แต่ที่ปรากฏ คนเหล่านี้กลับจ้องเกี้ยเซี้ย จนในที่สุด ทั้งคู่ถูกตลบหลังโดยการทำรัฐประหาร ตระกูลชินวัตรโชคดีหนีทัน แต่ซูจีซวยกว่านั้น ถูกจับขังเดี่ยว วันนี้เพิ่งมีบทความออกมาจาก Financial Times ว่า นางถูกขังเดี่ยวในห้องคอนกรีตที่สร้างขึ้นกลางป่า ไม่มีหน้าต่าง ไม่ให้ญาติพบ และไม่รู้เรื่องภายนอกแต่อย่างใด”
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า
“...ใครๆ ก็พูดกันว่า “เว้นแต่ดาวกับเดือน” เท่านั้น ที่คุณทักษิณซื้อมาไม่ได้ ซึ่งก็เป็นความจริงกว่า 90%
แต่ผมว่า สิ่งที่ คุณทักษิณ ซื้อไม่ได้นั้น มีแยะกว่าที่พูดกันไว้ครับ
ลองมองดูคร่าวๆแล้ว ยังมีถึง 4 เรื่อง คือ
ใจตัวเอง
แม้วันนี้คุณทักษิณ หน้าตาจะเต่งตึงผิดปกติ เท่าที่เงินจะซื้อได้
แต่ก็พอดูออกว่าสง่าราศีลดลงไม่เหมือนสมัยก่อน มนุษย์เราจะอยู่ได้อย่างมีความสุขนั้น ไม่ได้มาจากหน้าตาหรือเงินทองเพียงอย่างเดียว
แต่ต้องมาจาก “จิตใจ” ซึ่งเป็นสิ่งที่หาซื้อไม่ได้ ต้องใช้การทำดี คิดดี สร้างมันขึ้นมา ถ้าทำไม่ได้ ก็จะไม่สามารถปลดทุกข์ได้ ต้องแบกมันไว้ มันจะหนักขึ้นทุกๆวัน โดยเฉพาะ “ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในประเทศไทย”
วันเวลา
มันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่มนุษย์เรายอมรับ ว่า “มันมีอยู่จริง”
วันเวลา ไม่เคยหยุดรอใคร มันทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรงต่อคน
ทุกคน ไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่ว่าจะเป็นคนจน หรือ คนรวย
ทุกคนจึงมีวันเวลาเท่าๆกัน สิ่งสำคัญ คือ มันยังซื้อไม่ได้อีกด้วย
(ไม่เหมือน นักการเมือง หรือข้าราชการบางคน)
ถ้าพรรคเพื่อไทย พลาดครั้งนี้อีก “วันเวลา” ก็จะทำให้ คุณทักษิณ
ทุกข์ยิ่งกว่า คนทั้งโลก
ลุงตู่
คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ย่อมรู้กันว่า ทำไมคุณทักษิณ
จึงซื้อลุงตู่ไม่ได้
พรรคการเมืองไทย 5-6 พรรค
พรรคการเมืองเหล่านี้ แม้จะขัดแย้งกันเอง แทบจะฆ่ากันตาย
แต่ก็ไม่ยอมไปร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน เช่น พรรคภูมิใจไทย, ปชป., พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคไทยภักดี เป็นต้น
ผมว่าคุณทักษิณ ต้องไปทบทวนฟังเพลงของธานินทร์ อินทรเทพ
ซึ่งอยู่ในรุ่นที่คุณทักษิณ เป็นหนุ่มพอดี ฟังแค่เพลงเดียวก็พอ
ดวงตาจะเห็นธรรมเลยครับ
ทุกวันฉันมีความสุขหัวใจ
ไม่อยากจะคิดอะไร
มีหัวใจเหมือนห้องว่างเปล่า
ไม่โกรธไม่แค้น
ไม่เกลียดใครให้ใจหมองเศร้า
ใครว่าอย่างไรช่างเขา
ตัวของเรารู้ ตัวเราดี
ท่องไปเที่ยวไปให้หมดสิ้นวัน
ชาติหนึ่งชีวิตแสนสั้น
ขอใช้มันให้ช่ำชีวี……..”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า
“# สรุปเรื่องเล่าในมาเลเซีย
ผมกลับถึงบ้านแล้วครับ เดินทางไปมาเลเซีย 4 วัน ถือโอกาสดูบ้านเมืองของเขา ต้องยอมรับว่า บ้านเมืองเขาพัฒนาไปไม่เลว เมื่อก่อนเขามีตึกแฝด Pretonas ซึ่งเคยทำสถิติสูงที่สุดในโลก แต่ก็ถูกทำลายสถิติเรื่องตึกที่สูงที่สุดในโลกไปแล้ว
ล่าสุด เขามีตึก Merdeka118 มองไปเห็นสูงเด่นในกัวลาลัมเปอร์ ถือว่าเป็นตึกใหม่ สูงที่สุดในเอเชียและอันดับสองของโลก รองจากตึก เบิร์จ คาลิฟาที่ดูไบ การพัฒนาในเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ ในภาพรวม เขาพัฒนาไม่เลวทีเดียว ชีวิตความเป็นอยู่ไม่แพ้กรุงเทพฯของเรา
การเมืองของเขา แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ประชาชนของเขาก็สามารถจัดการได้ การเลือกตั้งล่าสุด 19 พ.ย.ที่ผ่านมา แม้พรรคการเมือง จะไม่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ชัดเจน เพราะแต่ละพรรคต่างไม่ยอมกัน สถาบันพระมหากษัตริย์ของมาเลเซีย ก็ใช้พระราชอำนาจแก้ปัญหาให้ได้
มองย้อนกลับมาที่ประเทศไทยเรา อดีตมีแต่นักการเมืองโกงชาติ ซึ่งภาพรวมประชาชนไทยเรา จัดการนักการเมืองโกงชาติ ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ที่ซ้ำร้าย เรายังต้องมาเจอปัญหา นักการเมืองขายชาติ ที่สมคบต่างชาติแฝงมาในรูปแบบ NGO จ้องทำลายเสาหลักของชาติ ผ่านมาตรา 112 เพิ่มขึ้นมาอีก
ในสภาวะเช่นนี้จึงเป็นจุดท้าทาย ประเทศไทยของเรามาก ถ้าประชาชนไทยเรา สามารถจัดการทั้งนักการเมืองโกงชาติ และนักการเมืองขายชาติได้ ผมเชื่อว่า การพัฒนาประเทศ การแก้ปัญหาความยากจน รับรองได้เลยว่า ไทยเราจะพัฒนาแบบติดจรวดแน่ครับ”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ กรณี “ปวิน” เปรียบ “ซูจี-ตระกูลชินวัตร” ถูกรัฐประหาร เพราะจ้อง “เกี้ยเซี้ย” กับอำนาจนอกรัฐสภา พร้อมแนะ “ควรกำจัด”
ประเด็นที่น่าตั้งคำถามก็คือ อำนาจนอกรัฐสภา หมายถึงใคร ทหาร กองทัพ หรือ สูงกว่านั้น?
ต่อมา “เกี้ยเซี้ย” ในลักษณะไหน เอื้อประโยชน์ สมประโยชน์ หรือว่า ทั้งหมด?
สำหรับ “อองซานซูจี” คนไทยอาจไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมากนัก แต่สำหรับ “ตระกูลชินวัตร” สิ่งที่ “ปวิน” หยิบยกมานั้น อาจทำให้มีข้อโต้แย้งมากมาย
เพราะอย่าลืมว่า ประเด็นของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” แห่งตระกูลชินวัตร เป็นเรื่องของการใช้อำนาจทางการเมืองเอื้อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง โดยเฉพาะ “ทักษิณ” พบว่า มีการทุจริตเชิงนโยบายหลายคดี ซึ่งถูกประชาชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนขับไล่ นำโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก่อนที่จะถูกรัฐประหาร โดยอ้างปัญหาทุจริตคอร์รัปชันเป็นสำคัญ
นี่คือ สิ่งที่ “ปวิน” ไม่ได้พูดถึง ทั้งยังด่วนสรุปว่า “การจ้องเกี้ยเซี้ย จนในที่สุด ถูกตลบหลังโดยการทำรัฐประหาร” ใครที่ไม่เป็นคอการเมืองอย่างแท้จริง ก็อาจเชื่อ แต่ “คอการเมือง” รู้ดีว่า ไม่เพียง “เกมแห่งอำนาจ” เท่านั้นที่ดับฝัน “ทักษิณ” หากแต่ “ทักษิณ” ก็ทำตัวเองด้วย