“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ตอน "ลุงตู่" ลากยาวไปต่อ สัญญาณ "อุ๊งอิ๊ง" ถอย ท้องหลบการเมืองแรง
ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ 1 ในเจ้าของพรรคเพื่อไทย
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา เสี่ยนิด เดินสายโชว์วิสัยทัศน์เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ต้องการคนเชี่ยวชาญเรื่องนี้มานำประเทศ
การเปิดตัวว่า อยู่กับพรรคเพื่อไทย จึงไม่แปลกอะไร ที่สามารถพูดได้เลยว่า จะเป็น 1 ในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน
เพียงแต่ที่ผ่านมามันเร็วเกินไปที่จะพูดชัดๆ แบบนี้ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง ที่พรรคเพื่อไทยมักจะไม่ชิงเปิดตัวผู้ถือธงนำ
ไม่ต้องหันไปดูไหนไกล ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เวลา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นน้องสาวในการไต่เต้าขึ้นสู่ผู้นำหญิงคนแรกของประเทศเพียง 49 วันเท่านั้น
สำหรับพรรคเพื่อไทยเปิดช้า เปิดเร็วไม่ต่างกัน ถ้ากระแสดี เปิดตอนไหนก็ได้ผลลัพธ์เหมือนๆ กัน เพราะขายความเป็นแบรนด์ตระกูลชินวัตรอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี กระแสหนึ่งมองว่า ในรายของ เศรษฐา ดูแล้วน่าจะเป็นตัวจริงของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้า มากกว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กของ ทักษิณ ที่กำลังตั้งท้อง
อุ๊งอิ๊ง เป็นแค่เพียงหมากในกระดานที่พ่อส่งมาปลุกกระแสพรรคเพื่อไทย ขายความเป็นดีเอ็นเอของชินวัตร ไม่ได้ตัดสินใจจะส่งลงสนามเลือกตั้งทันที
หรือต่อให้อยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็คงต้องรอดูสถานการณ์การเมืองว่า เล่นแรงถึงไหน เสี่ยงจะได้เก็บกระเป๋าตามพ่อและอามาอยู่ต่างแดนหรือไม่
โดยเฉพาะสัญญาณจากอีกฝั่ง คือ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าจะดันทุรังเล่นต่อในเกมนี้หรือไม่
หาก บิ๊กตู่ ไปต่อ นั่นหมายความว่า สถานะของพรรคเพื่อไทยจะยังเป็นเสี้ยนหนามสำคัญที่พร้อมจะบ่งออกหากขวางทางเข้าสู่เส้นทางอำนาจคนในตระกูลชินวัตรจะกลับมาสู่ความเสี่ยงทันทีอีกครั้ง
ยิ่งสัญญาณระยะหลังๆ มีอะไรให้หวาดระแวงเข้ามา ตามคิวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภายใต้การนำของ บิ๊กกุ้ย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.เตรียมจะพิจารณาคดีสำคัญ นั่นคือ คดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือที่เรียกกันว่า จีทูจีเก๊ ภาค 2
ภาคนี้ไม่ได้มีตัวละครเดิมๆ เหมือนภาคแรก แต่มีตัวละครระดับบิ๊กเนมเพิ่มเข้ามา นั่นคือ คนในตระกูลชินวัตรถึง 3 คนที่จะถูกกล่าวโทษ ได้แก่ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยาของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี
ในขณะที่ตัวละครเดิมทุกภาคอย่าง บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่อยู่ระหว่างจำคุก เปลี่ยนสถานะจากจำเลย มาเป็นพยานในภาคนี้
แน่นอนหลายคนอาจมองว่า ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ คงไม่ยำเกรงอะไร เพราะใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนอยู่แล้ว ป.ป.ช. หรือศาลจะฟันสักอีกกี่ครั้งก็ทำอะไรไม่ได้
แต่ต้องไม่ลืมว่า ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ยังไม่ละความพยายามในการกลับบ้าน คดีเก่ายังพอกเต็มหางหมู ถ้าต้องเพิ่มคดีจีทูจีเก๊ ที่มีโทษหลายสิบปีเข้าไป ประตูในการกลับบ้านจะยากขึ้นอีก
ส่วนน้องสาวอีกคนอย่าง เจ๊แดง ก่อนหน้านี้เคยหายตัวไปสักพัก ท่ามกลางข่าวลือในตอนนั้นว่า มีจำเลยบางคนให้การซักทอด บ้างว่าบินออกนอกประเทศไปแล้ว แต่หลายคนยังยืนยันว่า ยังอยู่
การกัน บุญทรง เป็นพยานในภาคนี้ จึงทำให้ต้องเสียวสันหลังกันอีกครั้ง
คดีนี้ถือว่าเงียบหายไปพักใหญ่ๆ แต่อยู่ๆ มีการชงให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาในสิ้นเดือนนี้ นั่นจึงทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายผู้กุมอำนาจกำลังเดินเกมบีบเพื่อขู่อีกฝั่งหรือไม่
ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะพลันที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ขยับในคดีนี้ มันทำให้แกนนำพรรคเพื่อไทยต้องกลับไปประเมินสถานการณ์กันใหม่ว่า จะเสี่ยงจะคนในตระกูลชินวัตรมาวัดใจผู้มีอำนาจหรือไม่
บางทีเรื่อง อุ๊งอิ๊ง ตั้งท้อง ทั้งที่อยู่ในโหมดการเลือกตั้ง อาจจะเป็นคำตอบในตอนนี้แล้วก็ได้ว่า ทักษิณ จะไม่ยอมเอาคนในตระกูลไปเสี่ยง
แน่นอนแหละว่า คนท้องก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ แต่ในทางปฏิบัติของแบบนี้คงไม่ปล่อยให้พลาดกันหรอก หาก อุ๊งอิ๊ง จะถือธงนำจริงๆ มันสามารถควบคุมกันได้
การปล่อยให้ตัวเองตั้งครรภ์มันก็สะท้อนว่า ไม่ได้ตั้งใจจะลงไปในสนามครั้งนี้อยู่แล้ว แค่มาเรียกแต้มให้กับพรรคเพื่อไทย ในฐานะสายเลือดตระกูลชิน
ขณะที่ เศรษฐา ได้รับการผลักดันจาก ยิ่งลักษณ์ มาตั้งแต่แรก เพราะมองว่า บุคลิกและชื่อเสียงน่าจะเรียกคะแนนจากทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าได้ เหมาะกับยุคสมัย
และการออกมาเปิดเผยว่าอยู่กับพรรคเพื่อไทยในช่วงที่กำลังมีการประชุมเอเปก และ บิ๊กตู่ กำลังถูกค่อนแคะเรื่องสกิล ทั้งภาษา และความเชี่ยวชาญ มันก็มองได้ว่า ต้องการให้เกิดการเปรียบเทียบแบบชัดๆ
ระหว่าง เศรษฐา คนที่มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา มีความเป็นหัวสมัยใหม่ เป็นนักธุรกิจ กับ บิ๊กตู่ คนที่มีจุดอ่อนด้านเศรษฐกิจ หัวค่อนข้างโบราณ
นัยยะเหมือนต้องการให้คนทั่วไปเห็นว่า ถ้าตอนนี้คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีคือ เศรษฐา ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์จากการประชุมเอเปกมากกว่า บิ๊กตู่
ช็อตนี้ทั้งจงใจบลั๊ฟและหาคะแนนไปในตัว แต่ในทางกลับกัน มุมอื่นๆอีกหลายมุม เศรษฐาก็สู้บิ๊กตู่ไม่ได้ ดูรวมๆแล้วก็สู้ไม่ได้
ถึงตอนนี้สัญญาณ "ลุงตู่" ยังไม่มีถอยแม้ก้าวเดียว หลังเอเปกก็ยังนิ่งไม่รีบตัดสินใจอะไรแน่นอน แยกพรรค ย้ายพรรค แค่แผ้วทางไว้ก่อน จะอยู่หรือไปยังไม่แน่ ต้องรอวันที่ 30 พ.ย. กฎหมายลูกเลือกตั้งส.ส.วินิจฉัย กระดานการเมืองถึงจะชัดเจน
แต่แนวโน้ม 3ป. ยังไปต่อ จะร่วมกันเดิน หรือแยกกันเดินรวมกันตีแค่นั้น ไอ้เรื่องที่จะแตกแยกกันจริงๆคงไม่มีทาง
-------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1