รองโฆษกรัฐบาล เผย หน่วยงานคมนาคมเร่งแก้ไขปัญหาความแออัด ณ ท่าอากาศยานอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวเข้าไทยหลังเอเปก และไฮซีซัน ตามข้อสั่งการนายกกรัฐมนตรี
วันนี้ (25 พ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นหลังจากที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปกและในฤดูการท่องเที่ยว หน่วยงานด้านคมนาคมได้มีการบูรณาการการทำงานและรายงานผลดำเนินงานให้นายกรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ
ทั้งนี้ หลังรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานบูรณาการการให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พร้อมกับตั้งศูนย์สั่งการร่วม (Single Command Center) เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมท่าอากาศยาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ความคืบหน้าการดำเนินงานล่าสุด รมว.คมนาคม ได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าสามารถบรรเทาความแออัดบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ (ด่าน ตม.) ได้แล้ว โดยในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงเวลาที่มีเที่ยวบินคับคั่งสามารถระบายผู้โดยสารได้ภายใน 30 นาที ผู้โดยสารใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน และใช้เวลาหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง 1 นาทีต่อคน
“การแก้ไขปัญหาข้อจำกัดเรื่องบุคลากร ณ จุดตรวจหนังสือเดินทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ดึงเจ้าหน้าที่จากท่าอากาศยานที่นักท่องเที่ยวยังไม่มากเข้ามาสนับสนุนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง แต่เพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาว นายศักดิ์สยาม ได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีเพื่อทราบปัญหาและนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติสนับสนุนเรื่องอัตรากำลังที่เพียงพอเพื่อรองรับการทำงานในระยะยาวต่อไป” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ส่วนปัญหาที่ยังพบอยู่ขณะนี้ คือ ผู้โดยสารยังใช้เวลานานสำหรับการรอรับกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องจากช่วงโควิด-19 ที่บริษัทผู้ให้บริการได้ลดกำลังคนลงและขณะนี้ยังเพิ่มกลับเข้ามาไม่เพียงพอ โดยนายศักดิ์สยามได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เชิญผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือในสัปดาห์หน้าเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพื่อให้ภาพรวมการให้บริการทุกจุดภายในท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่งสามารถอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป