โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดี IMF ชื่นชมไทยในฐานะเจ้าภาพ APEC 2022 กำหนดหัวข้อการประชุมที่ชัดเจน สามารถดึงดูดความร่วมมือได้จากทุกเขตเศรษฐกิจ
วันนี้ (23 พ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่นาง Kristalina Georgieva กรรมการจัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ได้กล่าวชื่นชมไทยในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกที่ผ่านมา ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC 2022 โดยมีศักยภาพดึงดูดความร่วมมือทุกเขตเศรษฐกิจ และชื่นชมไทยที่ได้กำหนดหัวข้อของการประชุมที่มีความชัดเจน ประเด็นเรื่องการ “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์. เชื่อมโยงกัน. สู่สมดุล : Open. Connect. Balance.”
โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า กรรมการจัดการกองทุน IMF ยังได้กล่าวถึงข้อเสนอแนะเพื่อรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์ความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่า โลกเปลี่ยนแปลงไปมากจากการต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ ซึ่งการระบาดของโควิด-19 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจแบบถาวร (Permanent output loss) กว่า 5.3% ของ GDP โลก เขตเศรษฐกิจเอเปกส่วนใหญ่กำลังชะลอตัว และอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลกกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ในขณะที่ประเทศและภูมิภาคหลักอย่าง สหรัฐฯ, จีน และ ยุโรป ซึ่งเป็นเครื่องยนต์หลักของการเติบโตโลกก็กำลังชะลอตัวลงพร้อมๆ กัน ซึ่งนั่นกำลังส่งผลกระทบต่อการส่งออกของตลาดเกิดใหม่ อย่างไรก็ดี ภูมิภาคอาเซียนยังถือว่ามีข้อได้เปรียบ และเป็นจุดโดดเด่น (Bright spot) ที่จะได้รับประโยชน์จากเงื่อนไขของการปรับปรุงการค้า
ทั้งนี้ กรรมการจัดการกองทุน IMF เห็นว่า เอเปก ได้รับประโยชน์อย่างมากจากการรวมกลุ่มของ 21 เขตเศรษฐกิจคิดเป็น 60% ของ GDP โลก โดยภูมิภาคเอเชียมีห่วงโซ่คุณค่าระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่งที่สุด ในขณะที่คู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของละตินอเมริกาอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก อีกทั้ง 2 ใน 3 ของการนำเข้าของสหรัฐฯ มาจากเอเปก และในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา การรวมตัวนี้ทำให้ผู้คนกว่า 1.5 พันล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน และอีกหลายร้อยล้านคนเข้าสู่ชนชั้นกลาง
โดย IMF ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ทุกประเทศต้องร่วมมือกันหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่าย นโยบายการเงินและการคลังต้องเดินไปด้วยกัน สร้างความยืดหยุ่นเพื่อรอรับแรงกระแทกในอนาคต ทั้งกับผู้คนที่สามารถฟื้นตัวได้ เศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่น และโลกที่สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปได้ โดยหากทุกคนร่วมมือกันเราจะแข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนี้ กรรมการจัดการกองทุน IMF ได้กล่าวชื่นชมไทยในฐานะเจ้าภาพ จัดการประชุมโดยมีศักยภาพดึงดูดความร่วมมือทุกเขตเศรษฐกิจ และกำหนดหัวข้อของการประชุมที่มีความชัดเจนของไทย “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์. เชื่อมโยงกัน. สู่สมดุล : Open. Connect. Balance.” โดยมองว่า ‘เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์.’ ผ่อนปรนข้อจำกัดทางการค้า และขจัดอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี ‘เชื่อมโยงกัน.’ ส่งเสริมและสนับสนุนข้อตกลงระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง และทำงานเพื่อทำให้ WTO แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งดิจิทัลถือเป็นโอกาสที่ดีในการกำหนดโลกที่เชื่อมต่อกันได้ดีขึ้นและช่วยพัฒนาชีวิตผู้คน และ ‘สู่สมดุล.’ การเติบโตต้องมีความครอบคลุมมากขึ้น เพื่อปกป้องกลุ่มที่เปราะบาง และปกป้องความเท่าเทียมกันทางเพศ การเติบโตจะต้องมีความยั่งยืนมากขึ้น และสามารถรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้
“นายกฯ พร้อมเดินหน้าเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น ครอบคลุม และยั่งยืนให้กับประเทศ ยืนยันไทยให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศ พร้อมที่จะสนับสนุนข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ เชื่อมั่นไทยเดินหน้านโยบายในทิศทางที่ถูกต้อง และพร้อมหารือและรับฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อนำมาปรับใช้อย่างเหมาะสม เดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนประเทศเพื่อคนรุ่นต่อไป” นายอนุชา กล่าว