เครือข่ายภาคประชาชน ยื่นเอกสารถึง “ประยุทธ์” ค้านให้กัญชากลับคืนเป็นยาเสพติด เร่งออก พ.ร.บ.ควบคุม ชี้ผลักดันกัญชาจึงมิใช่การแย่งชิงทางการเมือง แต่เป็นการสร้างความมั่นคงทางยาแก่ประเทศชาติ
วันนี้ (22 พ.ย.) บริเวณฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงาน กลุ่มเครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย กว่า 150 คน นำโดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่อง คัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และ ขอให้ผลักดัน พ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นกฎหมายบังคับใช้ โดยระบว่า
ตามที่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาในฐานะพืชสมุนไพรมาโดยลำดับนั้น บัดนี้ ถึงขั้นตอนสำคัญที่จะทำให้เกิดการจัดการและควบคุมเชิงระบบสำหรับพืชกัญชา เพื่อเป็นหลักประกันต่อสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงพืชกัญชาในฐานะความมั่นคงทางยาของครัวเรือนและของประเทศชาติโดยรวม เครือข่ายประชาชนเพื่อการมีกฎหมายควบคุมกัญชาในประเทศไทย จึงมีข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี 2 ประการดังนี้
1. ขอให้แนวนโยบายของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับกัญชาจะต้องไม่นำกัญชาไปสู่การเป็นยาเสพติดโดยเฉพาะการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เพราะการนำกัญชาไปสู่ยาเสพติดเท่ากับเป็นการตัดสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงกัญชาและยังนำไปสู่การสร้างกติกาใหม่ที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่มเข้าถึงและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาได้ในขณะที่ประชาชนจะถูกกีดกัน ฉะนั้นหากรัฐบาลคำนึงถึงประชาชนจะต้องไม่นำพืชกัญชากลับไปสู่ยาเสพติดอีก
2. เพื่อเป็นหลักประกันในสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงพืชกัญชาเพื่อความมั่นคงทางยารัฐบาลจะต้องผลักดันให้เกิดกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติเพื่อใช้สำหรับควบคุมกัญชาเชิงระบบ เพราะกฎหมายระดับพระราชบัญญัติจะระบุหลักการของการปฏิบัติต่อกัญชาในประเทศนี้เอาไว้ ข้อปฏิบัติใดที่จะเกิดขึ้นกับกัญชาจะต้องอยู่ภายใต้หลักการในพระราชบัญญัติ บัดนี้กรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำกฎหมายเสร็จสิ้นแล้วควรที่สภาผู้แทนราษฎรจะต้องพิจารณาบังคับใช้ ฉะนั้น รัฐบาลในฐานะผู้ใช้อำนาจบริหารประเทศจะต้องตระหนักว่าการไม่มีกฎหมายมาควบคุมกัญชาเชิงระบบเป็นความผิดพลาดร้ายแรงของการบริหารประเทศ เพราะจะก่อปัญหาหลายประการตามมา รัฐบาลจึงต้องดำเนินการเพื่อให้สภาบังคับใช้ พ.ร.บ.กัญชาที่กำลังจะเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาว่าความมั่นคงทางยาจากพืชกัญชาจะสามารถทำให้สังคมไทยมีความพร้อมพอต่อการรับมือวิกฤตใดในอนาคตที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนและเลวร้ายมากขึ้นทุกที ภาระกิจของการผลักดันกัญชาจึงมิใช่การแย่งชิงทางการเมืองแต่เป็นการสร้างความมั่นคงทางยาแก่ประเทศชาติ