“สฤษฏ์พงษ์” โวยกระบวนการสกัดกั้น ไม่ให้ออก กม.ควบคุมกัญชา ด้าน “คารม” ลั่น ถ้าไม่ผ่าน อาจมี ส.ส. 20-30 คน ลาออก
วันนี้ (22 พ.ย.) นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีที่มีความพยายามที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีกครั้งหนึ่ง ว่า ทั้งๆ ที่ ได้มีการนำกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างที่รัฐสภากำลังร่วมกันพิจารณาออกกฎหมาย เพื่อนำมาควบคุมการใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ และเพื่อส่งเสริมการให้เป็นพืชทางเศรษฐกิจต่อไป แต่ขณะนี้กลับมีการบิดเบือนและมีกระบวนการสกัดกั้น ไม่ให้ออกกฎหมายเพื่อมาควบคุมการใช้กัญชาให้สำเร็จ ทั้งนี้ โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน ทั้งที่กลุ่มนักการเมืองเหล่านี้ ทราบดีว่า คนไทยนั้นจำนวนมาก มีการใช้กัญชาในครัวเรือนทั้งในการประกอบอาหาร ใช้ในการรักษาโรคนานแล้ว
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวว่า กระบวนการของกลุ่มคนเหล่านี้ ประกอบไปด้วย นักการเมืองบางกลุ่ม ที่ขาดความรับผิดชอบต่อประชาชน และกลุ่มทุนเสียประโยชน์ จากการที่ได้มีการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด เพราะเขาทราบดีว่าประโยชน์ของกัญชา จากผลการวิจัยประโยชน์จากกัญชานั้น ทำให้ผู้ป่วยลดการใช้ยาแผนปัจจุบันในการรักษาโรคบางโรคลงอย่างชัดเจน จึงย่อมทำให้บริษัทฯที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยา หรือผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาโรคต่างๆ เสียประโยชน์ จึงได้ใช้สมคบกับนักการเมืองบางกลุ่ม สร้างความน่ากลัวเกินจริง เพื่อสำหรับพืชกัญชาที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้น คือ มีความพยายามที่จะนำกัญยากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกครั้งหนึ่ง ขณะนี้ยังมีข้อมูลว่ามีการนักการเมืองบางกลุ่มไปยื่นคดีต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้มีการคุ้มครองชั่วคราว กล่าวคือ ระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ... ยังไม่ใช้บังคับ โดยขอให้มีการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิมก่อน
ด้าน นายคารม กล่าวว่า ถ้าใครก็แล้วแต่ที่จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอีก ถือว่าสร้างความทุกข์ให้ประชาชน ที่ปลูกกัญชาเอาไว้ประกอบอาหารและทำเป็นยาสมุนไพรเพื่อรักษา เราจำเป็นต้องมีกฎหมายที่ออกโดยฝ่ายนิติบัญญัติ คือ รัฐสภา มาออกกฎหมายครอบคลุม แม้ว่าในขณะนี้จะมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกมาป้องกันเรื่องเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้หญิงมีครรภ์ และการเสพกัญชาในที่สาธารณะ แต่ก็ต้องมีกฎหมายกัญชามาควบคุมและต่อยอดให้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ
นายคารม กล่าวต่อว่า มีสมาชิกผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านไปยื่นหนังสือถึงฝ่ายปกครอง เพื่อคุ้มครองชั่วคราวให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จนกว่าจะมีกฎหมายออกมา ที่ขณะนี้อยู่ในวาระ 2 ซึ่งตนเห็นว่าเราเป็นนักการเมืองเป็นสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ออกกฎหมาย แต่กลับจะไปใช้ศาลซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติมาปิดกั้น ซึ่งตนไม่เห็นด้วย และยังมีการไปยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อนำไปสู่ศาลปกครอง เพื่อให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด
“ผมจึงอยากจะกล่าวในการแถลงข่าวนี้ ว่า พรรคการเมืองบางพรรคที่เก่าแก่ และพรรคที่อ้างว่ามีคะแนนนิยม แต่กลับไม่ได้ใส่ใจที่จะส่งเสริมประชาชน เราจึงเห็นว่าใครก็แล้วแต่ ที่คิดว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นการคิดที่ไม่ถูกต้อง และเราก็ไม่เห็นด้วย ถ้ากัญชาไม่ผ่านก็ไม่แน่อาจจะมี ส.ส.จำนวนมากในปลายปีนี้ที่ไม่เห็นด้วย อาจจะแสดงอะไรบ้างอย่างออกมาในเวลาที่ไม่นาน อาจจะลาออกซัก 20-30 คนก็ได้ เพราะเขาเห็นว่าเป็นการเล่นการเมืองที่เอาแต่ประโยชน์ของพรรค ไม่ได้เอาประโยชน์ของประชาชน ก็คือ ไม่รับผิดชอบต่อประชาชน” นายคารม กล่าว
นายคารม กล่าวอีกว่า เราสงสัยนักการเมืองบางกลุ่มบางคนสมคบกับบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการที่กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ตนคิดว่า พรรคภูมิใจไทยทำเรื่องนี้มาถูกแล้ว และตนถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่ในอนาคตถ้าได้เป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย เรื่องนี้ตนก็ยังสนับสนุนต่อไป