รมว.พลังงาน เผย ยังไม่สนใจงานทางการเมือง ขอทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่กังวลปลาย รบ.ส่งผลกระทบต่อการลงทุน เพราะวางโครงสร้างอุตสาหกรรมใหม่ไว้แล้ว รับหวั่นราคาพลังงานปรับตัวขึ้น ธ.ค.ประชุม กพช.หามาตรการช่วยค่าไฟกลุ่มใช้ไฟ 300-500 หน่วย
วันนี้ (22 พ.ย.) นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงการประเมินเศรษฐกิจไทย ในไตรมาส 3 เติบโตขึ้น ถือว่า เป็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และมีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นไปตามที่เคยบอกกับสื่อมวลชนมาตลอด ว่า ทุกอย่างต้องรักษาเสถียรภาพ การเงินการคลัง ผลลัพย์ออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้การฟื้นตัวเศรษฐกิจดีขึ้น
ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่า กลางเดือน ธ.ค.จะได้ตามเป้า 10 ล้านคน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนนักท่องเที่ยว และเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยวคนที่ 10 ล้าน ที่เข้าสู่ประเทศไทย
ขณะที่การลงทุนภาครัฐจำเป็นต้องเร่งเครื่อง เพราะอยู่ในช่วงต้นปีงบประมาณ ส่วนมาตรการเศรษฐกิจ มี 3 หน่วยงานที่จะร่วมพิจารณา คือ กระทรวงการคลังธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒน์ เช่นเดียวกับมาตรการลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนก็กำลังพิจารณาอยู่ รวมถึงประเมินสถานการณ์สมมติฐานที่ได้ตั้งไว้ จะนำมาพิจารณาทั้งหมด
ส่วนงบประมาณที่ต้องมาอุดหนุนค่าพลังงานในปีหน้า ก็ต้องพึ่งพาด้านเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัว รายได้ประชาชนจะดีขึ้นตามลำดับ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ก็จะเปิดดำเนินการ หลังจากนี้ ทางกระทรวงพลังงานจะไปพิจารณามาตรการต่างๆ เพื่อมาช่วยเหลือประชาชน จึงอยากให้รอดูและรับฟังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ว่าจะมีการปรับราคาขึ้นตามสมมติฐานหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ตนเองได้เห็นตัวเลขค่าใช้จ่ายแล้ว และกำลังสอบถามไปยังคณะกรรมการ กพช. ว่า จะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะมีประชุมในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อจะให้ทราบผลในเดือน ม.ค. 66
ทั้งนี้ นายสุพัฒนพงษ์ ยอมรับว่า กังวลในเรื่องของราคาพลังงานโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ซึ่งอาจจะมีแนวทางเพิ่มเติม นอกจากแนวทางเดิม แต่ช่วงนี้อยู่ในกระบวนรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจ ประชาชน ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ไฟ 300-500 หน่วย
พร้อมระบุว่า การลงทุนอุตสาหกรรมใหม่ๆ ก็เริ่มทยอยเข้ามาในประเทศไทย และเร่งดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ และพยายามดึงดูดอุตสาหกรรมอื่นๆเข้ามาด้วย เพราะช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่ดี หลังการประชุมเอเปก ก็จะมีนักธุรกิจเข้ามาอีกหลายคณะ ไทยจึงต้องเก็บเกี่ยวและดึงดูดนักลงทุนไว้ เพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ
ส่วนข้อกังวลจะกระทบกับนักลงทุน เพราะรัฐบาลจะหมดวาระหรือรัฐบาลเตรียมการยุบสภานั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ทุกอย่างได้เตรียมการปูพื้นไว้เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่า อุตสาหกรรมหรือโครงสร้างพื้นฐานที่รัฐบาลทำไว้ จะสอดคล้องกับทิศทางโลก ดังนั้นต้องทำอย่างต่อเนื่อง ส่วนรัฐบาลจะมีนโยบายอย่างไรก็ต้องคอยดู
ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเข้าสู่ที่ประชุม ครม. 29 พ.ย.นี้หรือไม่ ว่า นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า จะทำให้ทัน หากไม่ทันต้นเดือน ธ.ค.ก็ยังนำเสนอเข้าสู่ประชุมได้ ซึ่งจะมีหลายกระทรวงนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ส่วนจะทันก่อนยุบสภาหรือไม่ ตนเองไม่ทราบแต่จะทำหน้าที่ในการวางระบบนิเวศ เพื่ออุตสาหกรรมในอนาคตไว้ให้เป็นแผนระยะยาว
ส่วน พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชวนไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวยังอยากจะเลี้ยงหลาน แต่สิ่งไหนที่เป็นผลประโยชน์กับประเทศ ตนเองก็ได้ทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ซึ่งเมื่ออยู่ในตำแหน่งผู้บริหารก็ทำหน้าที่บริหารหน่วยงาน เมื่อมีโอกาสได้มาช่วยประเทศ โดยมีตำแหน่งก็ได้ทำอยู่ จะอยู่ในบทบาทไหน ก็ช่วยได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครชวนเข้าร่วมพรรคใด แต่ตอนนี้ยังขอทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะต้องหยุดเมื่อไร ส่วนกติกาทางการเมืองก็ว่ากันไป