รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เบอร์มือถือผูกพร้อมเพย์ ไม่สามารถทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้ ยืนยันมีกฎหมายคุ้มครองชัดเจน ขอ ปชช.อย่าเป็นกังวลหลงเชื่อข่าวดังกล่าว
วันนี้ (22 พ.ย.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยสถาณการณ์ที่มีอาชญากรรมออนไลน์เกิดขึ้นหลายรูปแบบ ล่าสุด มีการปล่อยข่าวว่า หากเบอร์มือถือที่ผูกกับพร้อมเพย์หลุดออกไป จะถูกเปิดเผยยอดเงินบัญชี ทำให้ประชาชนเกิดความกังวลใจ จึงขอชี้แจงว่า การเผยแพร่ข้อความดังกล่าวเป็นข้อมูลเท็จ
นางสาวรัชดา กล่าวว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ธนาคารและบริษัทที่ดูแลระบบกลาง ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย หรือขายต่อข้อมูลได้ เพราะมีกฎหมายรองรับอยู่ คือ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และ พ.ร.ฎ. ควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนั้น มีประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำหนดในเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัย และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการพร้อมเพย์ทั้งธนาคารพาณิชย์ และผู้ให้บริการระบบกลางพร้อมเพย์ต้องปฏิบัติตาม อีกทั้งธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่ดูแลระบบกลาง เป็นระบบปิดที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ISO 27001 คนภายนอกไม่สามารถต่อเข้ากับระบบพร้อมเพย์ผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้รวมถึงการดูแลระบบสารสนเทศ (IT) ในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยมาตรฐานความถูกต้อง ความพร้อมใช้ของระบบการดูแลการเข้าถึงข้อมูล การสำรองข้อมูล และการมีแผนรองรับกรณีฉุกเฉิน
“ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.bot.or.th หรือ โทร. 02 2835353 การที่ผู้อื่นรู้เบอร์มือถือที่ผูกพร้อมเพย์ ไม่สามารถทำให้รู้ยอดเงินในธนาคารได้ โดยธนาคารและบริษัทที่ดูแลระบบกลางนั้น ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้ามาเปิดเผย หรือขายต่อข้อมูลได้ เพราะมีกฎหมายควบคุมอยู่” นางสาวรัชดา ย้ำ