พลาดอีก! “เพจดัง” ย้อนคำพูด “ทักษิณ” ไทยไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพเอเปก “นักวิชาการ” สยบดรามา ช่วยนับ “สี จิ้นผิง” จับมือ “ลุงตู่” กี่ครั้ง “อำนวย” จวกยับ “ชัชชาติ” ปล่อยม็อบลงถนน ชี้ทำผิดเงื่อนไข “พ.ร.บ.ชุมนุมฯ”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 พ.ย. 65) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ “ทักษิณ” พร้อมคำพูดก่อนหน้านี้ ทำนองว่า ไทยไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพเอเปก เปรียบเทียบความสำเร็จของการประชุมเอเปก
ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. ถูกโจมตี กรณีปล่อยม็อบลงถนน และมีผู้ออกมาปกป้อง พร้อมข้อความระบุว่า
“ผลงานเอเปกให้ท่านชัชช่ากี่คะแนนครับ”
ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความระบุว่า
“ปธน. สี จิ้นผิง ไม่ยอมจับมือนายกฯ ประยุทธ์?
เห็นบางสื่อ เล่นกระแสเสียใหญ่โต
ครับ (ครั้งที่ 1)
ครับ (ครั้งที่ 2)
ครับ (ครั้งที่ 3)
ครับ ครับ ครับ ... (ครั้งที่ 4-6 และน่าจะมีอีก)
เลยจับเสียเยอะกว่าคนอื่นเลย จับแล้วจับอีก แถมขอบคุณและกล่าวชื่นชมในการกล่าวสุนทรพจน์ด้วย”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หัวข้อ “ปลด ได้หรือไม่?? ผู้ว่าฯ กทม. กับ ม็อบต้านการประชุมเอเปก 2022”
โดยระบุว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศปปส.) ยื่นเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทย เสนอให้ปลดนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนปัจจุบันออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุกล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลัง หนุนหลัง หรือให้ท้าย เบาที่สุดก็คือ ทำตัวเป็น “ผู้ว่าฯ เฉย” (ไม่ใช่ “จ่าเฉย”) ไม่ดำเนินการใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าไปห้ามปราม โดยการห้ามทัพไม่ให้ผู้ชุมนุมออกจากสถานที่ชุมนุมที่จัดให้อย่างดิบดี เพื่อไม่ให้เคลื่อนย้ายออกจากสถานที่ชุมนุม ด้วยการเข้าไปห้ามปรามอย่างจริงจัง จนเป็นที่ประจักษ์ หรือทำตามที่ตนเองถนัดด้วยการไลฟ์สดเพื่อเป็นการห้ามปรามก็ตามทีเถอะ!!!
ในฐานะที่กระผมเคยดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรับผิดชอบหน้างานทางด้านนี้ (การชุมนุมสาธารณะ) ประกอบกับเคยรับราชการตำรวจที่รับผิดชอบดูแลข้อกฎหมายเรื่องการชุมนุมสาธารณะ ยิ่งไปกว่านั้น กระผมเป็นผู้ร่วมยกร่างพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน จึงขอแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้โดยสุจริต
การชุมนุมสาธารณะจะกระทำได้ต่อเมื่อจะต้องแจ้งการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่โดยมีรายละเอียดที่จะต้องแจ้ง เช่น วัตถุประสงค์การชุมนุม วัน เวลา สถานที่ที่จะทำการการชุมนุม ลักษณะการชุมนุม แกนนำการชุมนุม หรือผู้ประสานงาน ข้อเรียกร้อง และเมื่อถึงกำหนดจะต้องยุติการชุมนุมทันที ห้ามเคลื่อนย้ายการชุมนุมออกจากสถานที่ที่แจ้งการชุมนุม เช่น สถานที่ชุมนุมเป็นลานคนเมืองของกรุงเทพมหานคร ก็ต้องชุมนุมอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น ห้ามการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกจากสถานที่ดังกล่าว ถ้าฝ่าฝืนจะถือว่าเป็นการทำผิดเงื่อนไขการชุมนุม
ส่วนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ลานคนเมือง และก่อนจัดสถานที่ชุมนุม มีการประกาศอย่างชัดเจนว่า จัดสถานที่นี้ให้ผู้ชุมนุมใช้ (ประกาศออกสื่ออย่างชัดเจน) แต่เมื่อผู้ชุมนุมทำผิดเงื่อนไขเคลื่อนย้ายการชุมนุมออกนอกสถานที่ เคลื่อนย้ายไปตามถนนกีดขวางการจราจรและไปก่อเหตุรุนแรงขึ้น กรุงเทพมหานคร ทั้ง ผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ ลดหลั่นกันลงไป ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จะต้องมีหน้าที่ห้ามปรามผู้ชุมนุมที่กำลังจะกระทำ หรือกระทำผิดเงื่อนไข อย่างไร หรือไม่? เพราะถ้ามีหน้าที่แล้วไม่ปฏิบัติ (จ่าเฉย) ในที่นี้คือผู้ว่าฯ เฉย ก็จะเป็นการละเว้นการปฏิบัติการตามหน้าที่ ซึ่งต้องไปดูในรายละเอียดว่ามีหน้าที่หรือไม่ ถ้ามีหน้าที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ไปแค่ไหนเพียงไร หรือไม่?
แต่เท่าที่เห็นเพียงแค่การไลฟ์สดเพื่อห้ามปรามผู้ชุมนุม กระผมก็ยังไม่เห็น ที่พูดตรงนี้ก็เพราะกระผมติดตามผลงานของท่านผู้ว่าฯ ท่านนี้มาโดยตลอด เพราะกระผมเป็น 1 คะแนนที่เลือกท่านด้วยความหวัง ที่จะเห็นอนาคตของคนกรุงเทพมหานครที่ดีขึ้นกว่าเดิม ด้วยหวังว่า ท่านคงมาทำงานให้กับคนกรุงเทพฯอย่างแท้จริง เหมือนกับคนกรุงเทพฯ อีกล้านกว่าคนที่ลงคะแนนให้กับท่านนั่นแหละครับ…. เอวัง
แถมอีกนิดครับ กับการที่มีผู้ไปกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความสงบเรียบร้อยในการประชุมเอเปก 2022 ซึ่งถือเป็นหน้าตาของประเทศว่าทำเกินกว่าเหตุ ทำลายประชาชน ขอให้กลับไปดูพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ให้เข้าใจให้ถ่องแท้เสียก่อน…..ถามหน่อยเถอะ..อยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลยกพวกเอากระสุนยางไปยิงใส่ผู้ชุมนุมต่อหน้าผู้ว่ากทม. ที่ลานคนเมืองหรือเปล่าครับ???
ส่วนความสำเร็จของการประชุมเอเปก พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก “พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” ระบุว่า
“ถ้าไม่มี “โทนี่” ลุงตู่จะมาไกลถึงขนาดนี้ได้อย่างไร
ในที่สุด เอเปก ก็ปิดฉากลงด้วยดี
ท่ามกลางความชื่นชมของทุกๆ ฝ่าย ประธานาธิบดีฝรั่งเศส “มาครง” ครองหัวใจคนไทยไปเป็นอันดับแรก (ปิยบุตร อกหัก เพราะดูท่าว่า มาครง จะรักประเทศไทย มากกว่า ปิยบุตร)
ต่อด้วย สี จิ้นผิง มหามิตรของไทย และองค์รัชทายาทแห่งซาอุฯ
ผลประโยชน์ได้ตกอยู่กับชาติไทยในครั้งนี้ มีขึ้นในทุกๆ ด้านอย่างมหาศาลนัก โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว อาหารไทย ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย ความอ่อนโยนที่เต็มไปด้วยมารยาทของคนไทย รวมถึงการต้อนรับดูแลแขกต่างชาติจาก นิสิต นักศึกษากว่าพันคน อย่างอบอุ่น (ยกเว้นพวกที่ลานคนเมือง) ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกๆคน ด้วย “ยิ้มสยาม” แต่ก็มีบางพวกที่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
นอกจากนั้น ความร่วมมือ ร่วมใจกัน ของคนไทย เจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจและทหาร ที่ทำงานหนักต่อเนื่องกันมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ล้วนแต่เป็นเอกภาพ เป็นทีมเวิร์ก ทำกันด้วยใจ แบบคาดไม่ถึงว่าคนไทยซึ่งตามปกติ “ทำงานเป็นทีมไม่เป็น” จะทำได้ดีขนาดนี้
มาพูดถึง ลุงตู่ บ้าง แม้จะเหนื่อยสักเพียงใด แต่ลุงตู่ก็ได้รับคะแนนความสำเร็จไปเต็มๆ ที่สามารถพิสูจน์ให้คนไทยได้เห็นอีกครั้ง ว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่สับสนแบบนี้ (โทนี่ ยังทุ่มเทเล่นการเมืองอยู่)
ลุงตู่ จึงน่ายังได้รับการคาดหมายให้เป็นผู้นำพาชาติบ้านเมือง ไปสู่ความสุข สงบ และความเจริญ ต่อไป
อย่าลืมเพิ่งถึงยก 4 แค่นั้น ลุงตู่ยังมียก 5 ตอนจบรออยู่” (จากสยามรัฐออนไลน์)
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจคือ “ควันหลง” ที่เกิดขึ้นจากการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “ความรุนแรง” จากการสลายการชุมนุม “ม็อบหยุดเอเปก” ซึ่งกำลังถูกขยายผลสู่เกมการเมืองอยู่ในเวลานี้
อะไรไม่สำคัญเท่ากับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ติดร่างแหไปด้วย กรณีดูเหมือนเกียร์ว่าง ปล่อยให้ “ม็อบ” เคลื่อนไหวลงถนน ซึ่งนำไปสู่การปะทะกับ คฝ.ด้วยความรุนแรง
เรื่องนี้ หลายคนมองว่า ถ้าการชุมนุมอยู่แต่เฉพาะที่จัดให้ คือ ลานคนเมือง ไม่ลงถนน ความรุนแรงคงไม่เกิดขึ้น
เพราะการปล่อยให้ลงถนน พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน ชี้ให้เห็นว่า ไม่เพียงนำไปสู่ความรุนแรงอย่างที่เกิดขึ้น ยังถือว่า ผิดเงื่อนไข พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ด้วย
เรื่องนี้ ถ้ามีการแจ้งความเอาผิดกันขึ้น ก็ต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล ว่า ใครทำผิดกันแน่ ระหว่าง “ม็อบลงถนน” ผิดเงื่อนไข พ.ร.บ.ชุมนุมฯ หรือเจ้าหน้าที่ ไม่สลายการชุมนุมตามมาตรฐานสากล และทำเกินกว่าเหตุหรือไม่
ส่วนความสำเร็จ นอกจากคนไทยจะสามารถรับรู้ผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงในช่วงการประชุมเอเปกแล้ว ยังมีหลายคนพูดถึงผลประโยชน์ที่ประเทศไทย คนไทยจะได้รับมากมายมหาศาล และผู้นำประเทศไทย ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวัง เพราะผลการประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี พร้อมคำชมมากมายจากผู้นำประเทศที่เข้าร่วม
ผลสำเร็จครั้งนี้ ไม่รู้ใครบางคนแทบกระอักเลือด หรือไม่ โดยเฉพาะคนที่เคยออกมาพูดว่า ประเทศไทยไม่พร้อมเป็นเจ้าภาพเอเปก มันไม่ใช่!