รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯร่วมยินดี “การเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย” ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร แห่งแรกของประเทศไทย
วันนี้ (12 พ.ย.) นางสาว รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย ของจังหวัดพัทลุง ได้รับการขึ้นและทะเบียนจากองค์การอาหารเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ให้เป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทย (Global Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS)
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกณฑ์การพิจารณาการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร ประกอบด้วย 1. ความมั่นคงอาหาร ชีวิตความเป็นอยู่ดี 2. ความหลากหลายทางชีวภาพเกษตร 3. ระบบความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีมาแต่ดั้งเดิม 4. วัฒนธรรม ระบบคุณค่า และองค์กรทางสังคม 5. ลักษณะภูมิทัศน์, ภูมิทัศน์ทางทะเล ซึ่งการเลี้ยงควายปลักในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมามากว่า 250 ปีแล้ว การที่พื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกนั้น จะช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจในท้องถิ่นเติบโต ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพเอาไว้ได้
“นายกรัฐมนตรี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของไทย ที่เป็นมรดกตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษได้รับการยอมรับ และได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กรสหประชาชาติ สะท้อนให้เห็นว่า มรดกและภูมิปัญญาของไทยนั้นทรงคุณค่า ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้ดำเนินงานตอบรับตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการพัฒนามรดกภูมิปัญญาของไทย จนได้รับรางวัลนี้ รวมทั้งขอบคุณประชาชนทุกคนที่ได้ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาอันดีงามของไทยเอาไว้เรื่อยมา” นางสาวรัชดา กล่าว