เพื่อไทยข้องใจธุรกิจสีเทาเกลื่อนกรุง “ชัยชาญ” เผยผลสอบ “ธุรกิจสีเทา” สัปดาห์หน้าคืบหน้า ระบุ ขยายการสอบ เชื่อมโยง 3 ธุรกิจผิดกฎหมาย ปัดตอบกรณี ให้สัญชาติ “หาวเจ๋อตู้”
วันนี้ (10 พ.ย.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กรณีเจ้าหน้าที่บุกจับผับลับชาวจีน ย่านยานนาวา ที่เป็นธุรกิจสีเทา พบของกลางยาเสพติดจำนวนมาก ผับลักษณะนี้ มีทั้งย่านรัชดาภิเษก ห้วยขวาง รับเฉพาะลูกค้าชาวจีน ไม่รับคนไทย มีการรับฝากยาเสพติด ขณะที่เหล้า และเครื่องดื่มต่างๆ ล้วนเป็นของจีนหมด ไทยไม่ได้อะไรเลย เหตุใดปล่อยให้ตั้งผับสีเทากลางกรุงได้อย่างไร
นอกจากนี้ ยังพบว่า นายหาวเจ๋อตู้ หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ นายทุนจีนที่เกี่ยวกับสถานบริการแห่งนี้ บริจาคเงิน 3 ล้านบาท ให้พรรคการเมืองหนึ่ง และอยากทราบขั้นตอนการแปลงสัญชาติไทยให้นายหาวเจ๋อตู้ ทำไมทำได้ง่ายๆ เพราะกรณีให้คนต่างชาติมาทำธุรกิจผิดกฎหมายกลางกรุง เป็นทุนสีเทาที่ครอบงำประเทศไทย กระทบอธิปไตยและความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมประเทศ ทราบว่า มีอิทธิพลนักการเมืองระดับประเทศคอยช่วยเหลือ และอดีตนายตำรวจใหญ่เกี่ยวข้อง จริงหรือไม่ จะให้ความเชื่อมั่นอย่างไร จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนนายกฯ โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ยอมให้บุคคลต่างด้าว ทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศ โดยคดีที่ถูกจับกุมนั้นอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ บุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น พบว่า หลบหนี โดยอินเตอร์โพลได้ขึ้นบัญชีดำไว้แล้ว อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่าคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจสีเทาในประเทศนั้น พบมี 3 กรณี คือ หลอกลวงให้ลงทุน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสถานบริการโดยให้บริการกับคนสัญชาติเดียวกัน อย่างไรก็ดี เรื่องคดีนั้น รอง ผบ.ตร. เร่งรัดดำเนินการ หากใครผิดกฎหมายต้องดำเนินการตามกฎหมาย
“กลุ่มทุนสีเทาต่างชาติประกอบธุรกิจผิดกฎหมายเป็นกระบวนการมีหลายกลุ่มเชื่อมโยงกันหมด การสืบสวนสอบสอบปัจจุบัน เน้นสืบถึงความเชื่อมโยงกันใน 3 ธุรกิจผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายในทุกกลุ่มที่ครอบคลุมโดยเร็ว ทั้งนี้ นายกฯเร่งรัดดำเนินการ เบื้องต้นคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน ทั้งนี้ รัฐบาลขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า กลุ่มทุนผิดกฎหมายที่กระทบต่อความมั่นคง ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ใช้ทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้องดำเนินการกับกลุ่มทุนพวกนี้” พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจง
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงด้วยว่า กรณีเงินบริจาคพรรคการเมืองนั้น เป็นอำนาจที่กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องรับผิดชอบ ฐานะกำกับดูแล อย่างไรก็ดี การออกสัญชาตินั้น นายกฯ สั่งการให้สืบสวนว่าเป็นไปตามระเบียบวิธีการหรือไม่