xs
xsm
sm
md
lg

สภาผ่าน พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมันฯ ฝ่ายค้านซัดบริหารห่วยแตก กู้แสนกว่า ล.เอกสารแค่ 2 หน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สภาไฟเขียว พ.ร.ก.กู้เงินอุ้มกองทุนน้ำมันฯ “สุพัฒนพงษ์” อ้างโควิด-สงคราม ทำ ศก.ค่าครองชีพอ่วม จนกองทุนติดลบ จำต้องกู้เร่งเสริมสภาพคล่อง ฝ่ายค้านสับบริหารห่วยแตก กู้แสนกว่า ล.เอกสารแค่ 2 หน้า ไร้แผนรองรับ จี้ รมว.คลัง แจงภาษีหายเท่าไหร่ ปชป.บี้เก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่น

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลัง ค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 โดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน กล่าวรายงานว่า จากสถานการณ์เศรษฐกิจ และสถานการณ์ น้ำมันโลกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการเปลี่ยนแปลงหลายประการ ทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ ทำให้กองทุนน้ำมันต้องอุดหนุน เพื่อเข้าช่วยเหลือลดค่าใช้จ่าย ค่าครองชีพของประชาชน จนปัจจุบันสถานะของกองทุนน้ำมันฯ ติดลบกว่า 1.3 แสนล้านบาทซึ่งยังคงอุดหนุนเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนมากนัก โดยควบคุมราคาน้ำมันไว้ไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร หากไม่อุดหนุนจะอยู่ที่ 38-39 บาทต่อลิตร และควบคุมราคาแก๊สหุงต้มไม่เกิน 400 บาท หากไม่อุดหนุนก็จะอยู่ที่ 592 บาท

นอกจากนี้ ยังมีสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้เกิดวิฤตซ้อนวิกฤต และปัจจุบันสถานการณ์โลกยังไม่คลี่คลาย ทำให้สถานการณ์ติดลบไปเรื่อยๆ ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด กองทุนน้ำมันยังต้องรักษาเสถียรภาพในระดับราคาที่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องเสริมสภาพคล่องอย่างเร่งด่วน เพื่อเพิ่มความมั่นใจต่อการกู้ยืมเงินจากสถาบันทางการเงิน ซึ่งการค้ำประกันเงินกู้ของกระทรวงการคลัง เป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจต่อสถาบันการเงินที่จะอนุมัติเงินกู้ให้กับกองทุนน้ำมัน เพื่อเสริมสภาพคล่องและให้ระบบเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัว ขณะที่แผนชำระหนี้นั้น ทางกองทุนน้ำมันก็ได้วางแนวทางไว้แล้ว

ทั้งนี้ มีสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดนส่วนใหญ่แสดงความกังวลในเรื่องการหาเงินมาชำระหนี้กองทุนน้ำมัน เพราะยังไม่มีแนวโน้มที่ราคาพลังงานจะลดลงมา และอาจจะกระทบต่อวินัยการเงินคลังของประเทศได้

อาทิ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เราอาจจะลืมพูดเรื่องที่เป็นพื้นฐานที่สุด คือ การขอให้กระทรวงการคลังมาค้ำเงินกู้ ซึ่งหมายถึงการขอให้ประชาชนค้ำเงินกู้ด้วย และเงินกู้ครั้งนี้มีวงเงินสูงถึง 150,000 ล้านบาท แต่รมวงพลังงาน กลับไม่มีการชี้แจงว่า กู้ไปทำอะไร ดอกเบี้ยเท่าไหร่ รวมถึงแผนการการใช้หนี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมวิปฝ่ายค้าน ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง ตนได้สอบถามถึงแผนงาน ซึ่งหน่วยงานได้ชี้แจงผ่านเอกสารไม่ถึง 2 หน้า โดยระบุว่ากู้วงเงินแรก 30,000 ล้านบาท วงเงินที่เหลือจะทยอยกู้ 6 ครั้ง แต่ไม่ได้บอกว่าจะคืนเมื่อไหร่ และดอกเบี้ยจะเป็นอย่างไร แผนการใช้ยิ่งยากใหญ่ บอกแค่ว่าจะใช้จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ โดยไม่ได้แจ้งว่าการใช้เงินจะใช้ไปมากเท่าไหร่

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า กองทุนน้ำมันไม่ได้ระบุว่าจะหารายได้จากที่ใดมาใช้หนี้ ตอนนี้ไม่มีธนาคารใดให้กู้ เพราะสภาพคล่องของกองทุนมีปัญหาและเกิดความสุ่มเสี่ยงว่าจะใช้หนี้ไม่ได้ในอนาคต ที่ผ่านมา หากใช้ข้อมูลย้อนหลัง ค่าเฉลี่ยของการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 2 ปี เพื่อจะใช้คืนหนี้ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลากว่า 30 ปี ถึงจะใช้หนี้ได้ครบทุกบาททุกสตางค์ และยังภาษีสรรพสามิตที่หายไป แต่ไม่มีการชี้แจงไว้ที่ส่วนใดเลยวันนี้ขอเรียกร้องประธานผ่านไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงให้ทราบว่า ภาษีสรรพสามิตหายไปทั้งหมดเท่าไหร่

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ในภาพใหญ่หนี้สาธารณะของประเทศไทยจะเป็นเท่าไหร่ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากกองทุนน้ำมันกู้เงินและกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำหรือไม่ค้ำก็จะตกไปเป็นหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น 150,000 ล้านบาท จาก 10 ล้านล้านบาท และภาระหนี้ของคนไทยจะเป็นเท่าไหร่ในอนาคต ส่วนการเก็บภาษีลาภลอย โดยระบุว่า หากเป็นกลไกตลาดจริงและถูกกำหนดโดยตลาดโลกจริงการเก็บภาษีลาบลอยแบบนี้ย่อมไม่ส่งผลกระทบไปที่ผู้บริโภค

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.ก. นี้ เพราะปัญหาเกิดจากการบริหารงานของรัฐบาลเอง ไม่ควรเอาเงินประเทศไปแบกรับ ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยเพราะรัฐบาลนี้เข้ามาแล้วมีแต่กู้ และ แจก ตอนนี้เปลี่ยนมาให้ดูคลาสิกเป็นค้ำประกันการกู้ ซึ่งหากใครไม่เข้าใจเศรษฐกิจของประเทศก็จะฟังแล้วดูดี ว่าเพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้ค่าน้ำมันถูกลง แต่หากดูการบริหารแผ่นดินรัฐบาลชุดนี้เรียกว่า “หนี้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด” ตอนนี้ปลายเทอมรัฐบาลแล้วยังมีหน้ามาขอกู้อีก 1.5 แสนล้านบาท รมต.เคยอยู่ ปตท.มาต้องรู้ว่าเกิดความผิดพลาดอะไร ต้องเอาความจริงมาพูดว่านโยบายพลังงานผิดพลาดเพราะอะไร

“เท่าที่ฟังการชี้แจงของ รมต.เหมือนแผ่นเสียงตกร่อง โดยอ้างเหตุผลสารพัด การจะไปคำ้ประกันต้องใช้เงินของประชาชน ต้องถามตัวเอง และเอากระจกส่องด้วยว่าบริหารห่วยแตก ผิดพลาดใช่หรือไม่ หากไม่มีสงครามรัสเชีย ยูเครน ก็คงต้องโทษไอ้จุกไอ้แกะ อย่างเดียว”

นายจิรายุ กล่าวว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา นายกฯ ชี้แจงว่า จะลดค่าโรงกลั่นและไปเจรจา ตนอยากถามว่าไปเจรจาแล้วหรือยัง และได้ข้อสรุปอย่างไร และที่บอกว่า จะลดค่าการตลาดนั้นมีการทำหรือยัง ได้ผลอย่างไร นโยบายการใช้พลังงาน ทั้ง LPG NGV รัฐบาลได้ทำหรือยัง ก่อนหน้านี้ มีการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ แต่ช่วงหลังทางปั๊มแจ้งว่าปิดแล้วเพราะรัฐบาลไม่ชดเชย และราคาเท่ากับดีเซล ยังแนะนำให้เอาถึงแก๊ซที่ติดในรถยนต์ออกด้วย ซึ่งราคาแก๊สแพง เพราะค่าการตลาด ตั้งแต่ ก.ค. ราคาขาย 34.84 บาท ใช้เงินกองทุน 3.82 บาท ตอนนี้มาขอกู้อีก 1.5 แสนล้านบาท ตนเชื่อว่าไม่พอแน่นอน เพราะในช่วง 4-5 เดือนนี้ จะมีการใช้พลังงานสูงมาก ราคาต้นทุนพลังงานก็สูงขึ้น แม้จะไม่มีสงครามยูเครน-รัสเซีย ก็ตาม

“วันนี้มาประชุมแต่เช้านึกว่าจะเจอเรื่องดีว่าเศรษฐกิจปีหน้ารัฐบาลประยุทธ์จะโชติช่วง เปิดมาเจอขอเงินกู้อีกแล้ว คุณพระช่วยจริงๆ!!!! บอกเลยว่า เซ็ง .!!!ตอนนี้หนี้สาธารณะอยู่ที่ 60.58 ยังไม่รู้ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ชนเพดานไปแล้ว โดยหลักเรื่องกองทุนน้ำมัน รมว.พลังงาน ต้องคิดวางแผนแก้ไขล่วงหน้าอนาคต เพราะสถานการณ์ทั่วโลกมีการเล็งเห็นกันอยู่แล้ว ไม่ใช่ตอนนี้”

นายจิรายุ กล่าวว่า แม้ร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้มีไม่กี่มาตรา แต่มีราคามาตราละประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท หรือ 1.5 แสนล้านบาทใน 1 ปี หากรัฐบาลนี้บริหารค่าการตลาดดีๆ ลดลงแล้วเท่าไหร่ ค่ากำไร ค่าโรงหลั่นต้องพูดให้เคลียร์ และที่สำคัญ กรณีพิพาทระหว่าง บ.โททาวน์ และ เชฟร่อน เรื่องแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญที่จะทำการผลิตกระแสไฟฟ้ามีการแก้ไขปัญหาอย่างไร ดังนั้น หากรัฐบาลแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ก็อาจจะกู้แค่ 6 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ ในส่วนของเรื่องต้นทุนความพร้อม ซึ่งตนทราบมาว่าขณะนี้รัฐบาลกำลัง ประเคนให้กับเอกชน ทั้งในลาว ภาคใต้  ศอบต. เป็นเงินจำนวนมาก หากไม่ซื้อเขาก็ต้องจ่ายค่าความพร้อม เพราะGDP ต้องเติบโต ซึ่งวันนี้เราจ่ายปีละ 1 แสนล้านบาท หากเอาเงินส่วนนี้มาจ่ายเป็นค่าค้ำประกัน ก็ไม่ต้องไปกู้มาอีก ตนจึงบอกว่ารัฐบาลนี้ไร้น้ำยาจริงๆ

ด้าน นายสุพัฒนพงษ์ ชี้แจงประเด็นเรื่องค่าการกลั่น ว่า หากจะเก็บเงินจากโรงกลั่นเข้ากองทุนฯต้องพิจารณาให้ดี เพราะอาจจะกระทบต่อกำลังการผลิต ซึ่งมีหลายประเทศ เช่น เวียดนามที่ได้รับผลกระทบจนน้ำมันมีไม่เพียงพอใช้ในประเทศมาแล้ว

ขณะที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ชี้แจงแนวทางการเก็บค่าการกลั่นกับโรงกลั่นเข้ากองทุน ว่า เรื่องนี้เคยมีการหารือมาแล้ว และได้หารือกับสำนักงานกฤษฎีกา ว่า หากมีการเก็บภาระการเก็บอาจตกไปอยู่กับประชาชนในรูปแบบการเพิ่มราคาน้ำมันอีกทอดหนึ่งได้ เรื่องนี้ต้องพิจารณาและเตรียมวางแผนให้รอบคอบเกี่ยวกับแนวทาง ขณะนี้ค่าการกลั่นจากที่เคยอยู่ที่ลิตรละ5บาท ตอนนี้อยู่ที่ 2-3 บาท ทางกระทรวงฯจะหารือและวางมาตรการรองรับเกี่ยวกับค่าการกลั่น หากมีแนวโน้มกลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ต้นทุนค่าการกลั่นที่เป็นกำไรให้โรงกลั่นตอนนี้อ้างอิงมาจากต้นทุนต่างประเทศ จึงถามว่าต้นทุนค่าการกลั่นที่แท้จริงในประเทศอยู่ที่ลิตรละเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่ามีการอุ้มนายทุนก็จะเป็นจริงตามที่สงสัย และที่เคยรับปากว่าจะนำเงินกำไรส่วนเกินของโรงกลั่นมาให้กองทุนเพื่อชดเชยให้กับประชาชน วันนี้ยังไม่เห็นสักบาท และที่ปลัดพลังงานชี้แจงว่าหากเก็บค่าการกลั่นอาจจะเพิ่มภาระให้ประชาชน โดยจะทำให้ราคาน้ำแพงขึ้นไปอีก ถามว่า ในเมื่อใช้มีอำนาจในมือออก พ.ร.ก.อุ้มโรงกลั่นได้เป็นแสนล้านบาท ทำไมไม่ใช้อำนาจออกพรก.เก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่นเข้ากองทุนน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบต่อ พ.ร.ก. ด้วยคะแนนเสียง 239 เสียง ต่อ 166 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง


กำลังโหลดความคิดเห็น