xs
xsm
sm
md
lg

“ทิพานัน” ชี้ อุตสาหกรรมส่งออกขยายตัว ดันดัชนีเอ็มพีไอเดือน ก.ย.ทะลุถึง 3.36% ใกล้เคียงปี 62 ชี้ สัญญาณดีภาคอุตสาหกรรมกลับมาเติบโต-แข็งแกร่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ทิพานัน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้ อุตสาหกรรมส่งออกขยายตัว ดันดัชนีเอ็มพีไอเดือน ก.ย. ทะลุถึง 3.36% ใกล้เคียงปี 62 ก่อนเกิดโควิด เป็นผลจากมาตรการรัฐ ชี้ สัญญาณดีภาคอุตสาหกรรมกลับมาเติบโต-แข็งแกร่ง ส่งผลผลดีต่อภาพรวมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ


วันนี้ (3 พ.ย.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนกันยายน 2565 ขยายตัว 3.36% ขณะที่ไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ขยายตัว 8.06% ส่งผลให้ 9 เดือนแรกของปี 2565 เอ็มพีไอขยายตัว 2.83% โดยพบว่า การขยายตัวของเดือนกันยายน ใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์วิกฤตการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเกิดจากปัจจัยที่ตลาดส่งออกขยายตัวได้ดี ทั้งในสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรปและอาเซียน ภาคท่องเที่ยวขยาย ส่งผลต่อสินค้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่สำคัญคือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น เราเที่ยวด้วยกัน ช้อปดีมีคืน และ คนละครึ่ง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากการดำเนินงานของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ดัชนีเอ็มพีไอ ขยายตัวต่อเนื่อง จนกลับไปสู่ระดับที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ก่อนเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ถือเป็นสัญญาณดีที่ภาคอุตสาหกรรมไทยกลับมาเติบโตและแข็งแกร่ง และส่งผลดีต่อภาพรวมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สะท้อนถึงมาตรการในการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐและประชาชน รวมทั้งการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนและมาตรการช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งทางด้านสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง และแรงงาน แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย ทั้งที่มีโรงอตุสาหกรรมขนาดใหญ่และธุรกิจเอสเอ็มอี วิสาหกิจขนาดลางและขนาดย่อม

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม ยกระดับผู้ประกอบการควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ ให้มีความก้าวหน้าด้านเทคโลยี ทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้ไทยก้าวขึ้นสู่แถวหน้าประเทศที่มีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน” น.ส.ทิพานัน กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น