xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.นิว” ซัด คดีตระกูลดัง “รุกป่า” ไม่คืบ? “ธนาธร” จี้ กดดัน ส.ส.ผ่าน พ.ร.บ.สุราไร้ผล “อิ๊ง-แม้ว” โหนหาเสียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ขณะเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ตรวจสอบที่ดินของตระกูลดังรุกป่ากว่า 2,000 ไร่ จากแฟ้ม
ทำไมนานจัง? “ดร.นิว” ไล่บี้ คดีตระกูลการเมือง “รุกป่า” ไม่คืบ ซัด อภิสิทธิ์ชนเหนือกฎหมายตัวจริง “ธนาธร” จวก รัฐบาลออกกฎกระทรวงตัดหน้า “พ.ร.บ.สุราฯ” จี้ กดดัน ส.ส.ไร้ผล “อุ๊งอิ๊ง-แม้ว” โหนหาเสียง เคยดันสุราเสรี

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (2 พ.ย. 65) นายศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ระบุว่า

“สุดยอดตระกูลอภิสิทธิ์ชนเหนือกฎหมายตัวจริง

ชีวิตของ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย นับได้ว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญแก่ทั้งข้าราชการและประชาชนทั่วไป หลังจากที่ท่านพัวพันกับคดีรุกป่ากว่า 13 ไร่ ลงวันที่ 6 ก.พ. 60 ต่อมาทางสำนักพระราชวังได้ลงโทษโดยการไล่ออกจากราชการในวันที่ 27 ก.พ. 60

ตลอดจนมีพระราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องให้ถอดยศตำรวจ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอด พล.ต.อ.จุมพล ออกจากยศตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 27 ก.พ. 60 อีกด้วย

ก่อนที่ต้นเดือน มี.ค. 60 ศาลจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี แต่คำรับสารภาพเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 892,000 บาท

นายศุภนัฐ อภิญญาณ หรือ ดร.นิว
เหตุการณ์ลงโทษในครั้งนี้ จึงได้พิสูจน์ให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นว่าทางสำนักพระราชวังจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด ขณะที่ตระกูลของนักการเมืองสามนิ้วรายหนึ่งกลับยังคงลอยนวลอยู่เหนือกฎหมายยิ่งกว่าอภิสิทธิ์ชนใดๆ ทั้งปวง

ตระกูลของนักการเมืองสามนิ้วรายนี้ได้เข้าไปพัวพันกับคดีรุกป่าสงวนแห่งชาติจำนวนมากกว่า 2,000 ไร่ โดยที่มีการแจ้งความดำเนินคดีนับตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 63 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายตามที่มีการฟ้องในคดีแพ่งสูงมากถึงราว 147 ล้านบาท

แม้ว่าจะมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินดังกล่าวไปเมื่อช่วงปลายเดือน มี.ค. 65 แล้วก็ตาม แต่คดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการรุกป่าสงวนแห่งชาติกว่า 2,000 ไร่ กลับยังคงเงียบสนิทได้อย่างน่าเหลือเชื่อราวกับเป็นสุดยอดตระกูลอภิสิทธิ์ชน

ในขณะที่คดีรุกป่าของ พล.ต.อ.จุมพล ดำเนินไปอย่างรวดเร็วและจบลงในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือน แต่คดีรุกป่าสงวนแห่งชาติกว่า 2,000 ไร่ กลับใช้เวลานานนับปีในการเพิกถอน อีกทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกลับเงียบหายไปกับสายลม

ไม่ใช่แค่เพียงคดีนี้เท่านั้น แต่คดีอาญาอื่นๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองสามนิ้วรายนี้กลับยังคงเงียบสนิทและดำเนินไปอย่างเชื่องช้า จึงไม่แปลกที่ประชาชนทั่วไปจะอดคิดไม่ได้ว่าตระกูลนี้ใช้... แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม

คงต้องถามพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศดังๆ เราจะปล่อยให้ตระกูลของนักการเมืองสามนิ้วรายนี้ทำตัวอยู่เหนือกฎหมายต่อไปอีกนานแค่ไหน? เมื่อไหร่นักการเมืองสามนิ้วรายนี้กับตระกูลของเขาจะได้รับโทษทางอาญาและแพ่งจากคดีทั้งหมดเสียที?”

ภาพ กราฟิกเปรียบเทียบ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าหน้า โพสต์หัวข้อ [ สุราก้าวหน้าเท่านั้นที่จะปลดล็อกศักยภาพของเกษตรกร-คนทำสุรารายย่อย ไม่ใช่กฎกระทรวงตบตาประชาชน ]

เนื้อหาระบุว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย ที่ร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า ที่ผม คุณพิธา เท่าพิภพ และทีมงาน ร่วมกันผลักดันตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่ กำลังจะเข้าสู่การโหวตในสภาผู้แทนราษฎร

แต่ในยามที่สังคมกำลังจับจ้องท่าทีของฝ่ายต่างๆ อยู่อย่างใกล้ชิด รัฐบาลกลับออกกฎกระทรวงว่าด้วยการผลิตสุราฉบับใหม่ออกมา เพียงหนึ่งวันก่อนการพิจารณาร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า และยังจงใจสื่อสารด้วยคำบิดเบือนว่านี่คือการ “ปลดล็อก” สุราให้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องผ่านร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าของพวกเราอีก

ผมขอเชิญชวนทุกท่านให้ร่วมกันพิจารณาข้อมูลเปรียบเทียบนี้ ที่จะทำให้ทุกท่านเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารัฐบาลมีความจงใจสื่อสารความเท็จกับประชาชน อาศัยความเข้าถึงได้ยากของร่างกฎหมาย มาบอกข้อมูลไม่ครบถ้วนทุกด้านกับประชาชน เพื่อปูทางเป็นเหตุผลให้แก่ ส.ส. หลายคนในการคว่ำร่างกฎหมายสุราก้าวหน้า

การผ่านร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดดอกผลเป็นประโยชน์แก่ประชาชน กฎกระทรวงไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิตสุราที่เอื้อต่อทุนใหญ่ที่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจเลย ยังคงไม่ส่งเสริมให้มีผู้ผลิตเหล้าเบียร์ได้หลากหลายยี่ห้อ และจะยังคงทำให้เกิดการผูกขาดเพียงไม่กี่เจ้าในตลาด ที่มีมูลค่าหลักแสนล้านบาทต่อปี

เราต้องการกฎหมายที่ปลดปล่อยศักยภาพการผลิตเครื่องดื่ม การแปรรูปสินค้าเกษตรของไทย ทั้งข้าว อ้อย ผลไม้ต่างๆ ไม่ใช่กฎกระทรวงที่มีแต่ความไม่จริงใจและไม่เห็นหัวประชาชนที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้กันมา 5-6 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาทำแบบเสียไม่ได้เมื่อร่างกฎหมายสุราก้าวหน้ากำลังได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน

ผมขอเรียกร้องไปยังผู้แทนราษฎรทุกคน ในวินาทีที่คุณกดโหวต ขอให้ตระหนักถึงชื่ออาชีพคุณ

พวกคุณคือผู้แทนของราษฎร ไม่ใช่ผู้แทนของนายทุนผูกขาด

และขอให้ราษฎรทุกคน ช่วยกันส่งข้อความไปหาผู้แทนฯ ในเขตของท่าน ให้พวกเขาตัดสินใจบนผลประโยชน์ของประชาชน สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่การตัดสินใจทางการเมือง เป็นไปเพื่อรับใช้ประชาชน

#หยุดผูกขาดเหล้าเบียร์
#สุราก้าวหน้า”

ภาพ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @ingshin ระบุว่า

“พรรคเพื่อไทย เรายืนยันที่จะสนับสนุน พ.ร.บ. #สุราก้าวหน้า ให้ผ่านสภาในวันนี้ให้ได้ค่ะ แม้ว่าเมื่อวาน ครม. จะแก้ ‘กฎกระทรวง’ เรื่องใบอนุญาตการผลิตสุรา ให้สุราชุมชนขายได้ แต่การแก้กฎกระทรวงของ ครม. มีรายละเอียดซ่อนไว้และไม่ได้ปลดล็อกจริง ยังทำธุรกิจสุราไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้

ด้าน ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาแสดงความคิดเห็น ว่า

“การผูกขาดจะเป็นการปิดโอกาสในการเติบโต ของคนไทยโดยเฉพาะคนชั้นกลาง และไม่ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์หรือ Creative Economy”

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพที่เป็นการชี้แจงของฝ่ายรัฐบาล พร้อมข้อความระบุว่า

“เดี๋ยวก้าวไกลจะออกมาคัดค้านครับ”

.
แน่นอน, ประเด็น พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ถือว่า หาเสียงกับประชาชนได้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก และหลายคนหลายชุมชน รอพ.ร.บ.ฉบับนี้อยู่ เพื่อ “ปลดล็อก” สุราเถื่อน หรือ เหล้าเถื่อน ให้ถูกกฎหมาย ไม่ใช่ผูกขาดเฉพาะ “นายทุนใหญ่” ไม่กี่ตระกูล

ยิ่งกว่านั้น ในเชิงธุรกิจ ถือว่า วิสาหกิจชุมชน มีศักยภาพเพียงพอที่จะผลิตสุราหลากหลายชนิดจำหน่ายได้

ยิ่งกว่านั้น หากสามารถผลิตสุราได้อย่างถูกกฎหมาย ยังช่วยลดรายจ่ายของชาวบ้านในการจัดงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานแต่งงาน งานประเพณี ฯลฯ ได้อย่างมาก

ด้วยเหตุนี้ พรรคการเมืองที่ผลักดันเรื่องนี้ จึงหมายมั่นปั้นมือที่จะทำให้เป็นผลงานชิ้นโบแดงให้ได้

แต่ที่สุด ที่ประชุมสภาฯ ลงมติร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวาระที่ 3 ถึง 2 ครั้ง หลังคะแนนขาดกันไม่ถึง 25 เสียง ผลสุดท้ายโหวตคว่ำ ด้วยคะแนนห่างกันแบบเฉียดฉิว 196 ต่อ 194
เชื่อว่า เรื่องนี้จะมี “ภาคต่อ” อย่างแน่นอน!


กำลังโหลดความคิดเห็น