พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผย “นายกฯ-ประวิตร” สั่งสอบคนไทย-อดีตรัฐมนตรี เอี่ยวทุนจีนผิดกฎหมาย ยันหากพบเชื่อมโยงไม่มีละเว้น
วันนี้ (2 พ.ย.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการกวาดล้างบ่อนพนันของนายทุนชาวจีน ว่า พฤติกรรมคล้ายกับกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่งกระบวนการที่ก่อเหตุในประเทศในลักษณะนี้ที่จะต้องไปดูตั้งแต่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพราะหากเจ้าหน้าที่หย่อนยานกระบวนการนี้ก็จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยวันนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความเข้มงวดการตรวจคนคนเข้าเมือง ส่วนการก่อเหตุต่างๆ ก็ได้เร่งดำเนินคดีทั้งหมดอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล ที่จะสามารถออกหมายจับได้ภายในวันนที่ 4 พ.ย.นี้ ซึ่งสถานบริการที่ผิดกฎหมายได้ถูกปิดแล้วทั้งหมด และสามารถจับกุมกลุ่มทุนชาวจีนได้บางส่วน แต่ยังเหลือกลุ่มคนจีนและคนไทยที่ให้การช่วยเหลือ โดยอาศัยคนไทยเป็นนอมินี เหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญที่แปลงร่างมาเป็นบ่อนศูนย์เหรียญ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เมื่อไหร่ที่รัฐเข้มแข็งกระบวนการนี้ก็จะไม่กล้าอยู่ในประเทศไทย และย้ายฐานไปอยู่ในประเทศอื่นต่อ แต่เมื่อไหร่ที่กระบวนการรัฐอ่อนแอ กระบวนการนี้ก็จะกลับเข้ามาอีก โดยวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการปราบปรามอย่างเด็ดขาด และมอบหมายให้ตนเอง และต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยกันดำเนินการเรื่องนี้ และคาดว่า จะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการแถลงข่าวในภาพรวมได้
เมื่อถามว่า คนไทยที่ให้การช่วยเหลือนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เป็นอดีตนักการเมือง แต่ขณะนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงขนาดนั้น แต่วานนี้ในส่วนของอาคารของอดีตรัฐมนตรี ได้มีการเข้าตรวจค้นแล้ว ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดแล้วตำรวจจะต้องไล่ทุกเส้นทาง รวมทั้งเส้นทางการเงิน เพื่อตอบคำถามของสังคมได้ และตอบคำถามของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า วันนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าหนักใจ แต่ยอมรับว่า กระบวนการของกลุ่มทุนชาวจีนมีเป็นจำนวนมาก และรู้วิธีการ ซึ่งวันนี้ เป็นการแสดงให้เห็นว่าวันนี้เราไม่ต้องการกระบวนให้กลุ่มเหล่านี้ มาพักพิงในประเทศไทย และทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย
เมื่อถามว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินของอดีตรัฐมนตรี ในวันนี้ยังคงดำเนินการอยู่ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ดำเนินการทั้งหมดโดยนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมด หากพบใคร ก็ให้ดำเนินคดีทั้งหมด แต่ย้ำว่า ขณะนี้ในส่วนของอดีตรัฐมนตรียังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนชาวจีน พบเพียงแต่ว่า มีบริษัทที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยืนยันว่า ถ้าหากพบอะไรที่ผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ ถ้ามีความเชื่อมโยงและมีพยานหลักฐาน ต้องไม่ลืมว่า ทำงานในรูปแบบของคณะกรรมการร่วม มีหลายกองบัญชาการหากพบความผิดไม่มีใครหยุดได้ หรือปกปิดได้ พร้อมยืนยันว่า ถ้าหากพบว่าอดีตรัฐมนตรี มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มดังกล่าวก็ไม่มีละเว้น