xs
xsm
sm
md
lg

นมโรงเรียน วุ่นอีก! เวียนผู้ว่าฯ “ชะลอ” ปรับราคากลางรับเปิดเทอมใหม่ สอดรับ 3 องค์กร “บีบ” เหตุแบกภาระขาดทุนไม่ไหว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อนุฯ บอร์ดนมโรงเรียน เวียน มหาดไทย-ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ชะลอ ปรับราคากลาง “นมโรงเรียน” รับเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2565 วันที่ 1 พ.ย. สอดรับ 3 องค์กร ที่บีบปรับราคากลางใหม่ จนกว่าจะได้รับความชัดเจนในการปรับราคาผลิตภัณฑ์ฯ จากสาเหตุ “ผู้ประกอบการ” แบกภาระขาดทุนไม่ไหว จากมติ ครม. “ส.ค. 65” ไฟเขียวปรับราคาน้ำนมดิบทั่วประเทศ 1 ต.ค.

วันนี้ (1 พ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน เวียนหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศในฐานะ ประธานคณะกรรมการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ระดับจังหวัด

โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ “ราคากลาง“” เช่น หน่วยจัดซื้อ ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม โครงการอาหารเสริม (นม)โรงเริยน “ชะลอ” การปรับราคากลางไปก่อน

หนังสือลงนามโดย นายวิษณุ ไพศาลรุ่งพนา นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ อนุกรรมการและเลขานุการอนุฯชุดนี้ ภายหลังได้พิจารณาแนวทางการทำสัญญาซื้อขายอาหารเสริม (นม)โรงเรียน ของหน่วยจัดซื้อกับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมในภาคเรียนที่ 2/2565

“เห็นชอบให้หน่วยจดซื้อและผู้ประกอบการฯ ทำสัญญาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 ในราคาเดิมไปก่อน และกำหนดท้ายสัญญาว่า หากคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นขอบปรับราคากลาง ในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโรงเรียบแล้ว ให้หน่วยจัดซื้อสามารถแก้ไขสัญญาซื้อขาย เพื่อเป็นไปตามมติ ครม.”

เมื่อสัปดาห์ก่อน 3 องค์กร ประกอบด้วย ชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด, สมาคม เอส เอ็ม อี ผู้รวบรวมน้ำนมดิบและแปรรูป และ สมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการแปรรูปน้ำนมดิบ ที่เข้าร่วมโครงการฯภาคเรียนที่ 2/2565

ได้ออกแถลงการณ์ ขอให้ชะลอการจัดทำ สัญญาซื้อขายนมโรงเรียน และส่งนม สำหรับ ภาคเรียนที่2/2565 ตรงกับวันที่ 1 พ.ย. 65 จนกว่าจะได้รับความชัดเจนในการปรับราคาผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน และให้คณะอนุกรรมการ เวียนถึงหน่วยจัดซื้อประกอบด้วย สถาบันการศึกษา สหกรณ์ผู้ประกอบการรายย่อย SME กระจายอยู่ทั่วประเทศ ในการชะลอการจัดทำสัญญาของผู้ประกอบการ ปัญหาและผลกระทบของผู้ประกอบการ ที่เข้าร่วมโครงการ

เมื่อเดือน ส.ค. คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ ตามคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม (มิลค์บอร์ด) ได้มีมติให้ปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบ ณ หน้าโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตกรผู้เลี้ยงงโคนมให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เป็นต้นไป

“แม้จะเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ให้มีการปรับราคาน้ำนมดิบให้เหมาะสม ที่สะท้อนต้นทุนการเลี้ยงโคนม จากวัตถุดิบในการเลี้ยงโคนมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากมีการปรับขึ้นราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาต้นทุนวัตถุดิบหลัก (น้ำนมดิบ) ที่ใช้ในการผลิต ผลิตภัณฑ์นมโรงเรียน ปรับขึ้นตามไปด้วย”

ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่แท้จริง จึงขอให้คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน โปรดพิจารณา ปรับขึ้นราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นม ในโครงการอาหารเสริมนมโรงเรียน เพื่อมิให้กระทบกับอุตสาหกรรมนม.

ทั้งนี้ ผลประชุมมิลค์บอร์ด ครั้งที่ 5/2565 เมื่อ 10 ต.ค. 2565 ในระเบียบวาระที่ 4.1 การพิจารณาขออนุมติปรับราคากลางในการจำหน่ายนมโรงเรียน

จากเดิมราคากลางในการจำหน่ายนมโรงเรียน ชนิดพาสเจอร์โรซ์ มีราคา 6.58 บาทต่อถุง และนมโรงเรียนชนิด ยู เอช ที มีราคา 7.82 บาทต่อกล่อง

แต่จากการตรวจสอบข้อมูลต้นทุนปัจจุบัน พบว่า ผู้ประกอบการ มีต้นทุนในการผลิต “พาสเจอร์ไรซ์” เฉลี่ย 6.81 บาทต่อถุง และต้นทุน ยู เอช ที เฉลี่ย 7.77 บาทต่อกล่อง

ทำให้ ราคากลางนมโรงเรียน ยังเสียงแตก ว่า จะปรับเพิ่ม 40 สตางค์ หรือ 41 สตางค์

“ได้รับทราบในหลักการการคำนวณต้นทุนการผลิต และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ (กรมปตุสัตว์) ทำหนังสือสอบถามความเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างการคำนวณราคากลางการจำหน่ายนมโรงเรียน ไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ว่าต้นทุนการผลิต มีความเหมาะสมหรือไม อย่างไร”

และได้แจ้งเวียนให้ คณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน รับทราบ โดยกระทรวงพาณิชย์ มีความเห็นสอดคล้องกับฝ่ายเลขานุการฯ ให้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น