ข่าวปนคน คนปนข่าว
**คราเคราะห์ของ “พี่ศรี” โอกาสดีของ “ก๊วนขอเงินบริจาค” งานนี้ ในเฟกมีจริง
จากกรณี วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” เจ้าของช่องยูทูบ “ศักดินาเสื้อแดง” บุกเข้าทำร้ายร่างกาย “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญ “นักร้อง” ชื่อดัง จนกลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม
ฟังว่า ความต่อเนื่องจากช็อตนั้น เมื่อวานนี้ “ลุงศักดิ์” ผู้กลายเป็น “ฮีโร่” ของฝ่ายที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายประชาธิปไตย โดนตำรวจกองปราบฯ เข้าจับกุมตัวที่บริเวณลานจอดรถ อาคารมาลีนนท์ ขณะที่กำลังจะไปออกรายการ “โหนกระแส” โดยตำรวจใช้หมายจับค้างเก่าในคดีที่ลุงเสื้อแดง ทำร้ายร่างกาย “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหมายจับของศาลแขวงดุสิต เมื่อปี 2564 และยังไม่มีการถอนหมายจับ ซึ่งได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา
เรื่องนี้ความเป็นไป ก็ควรจะยุติลง แบบเป็นบทเรียนกันไป เมื่อนักร้องดังได้รับบทเรียนที่อีกฝ่ายอ้างว่า “ต่อยสั่งสอน” เพราะ พี่ศรีร้องได้ทุกเรื่อง โดยที่สังคมก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงที่ “ตัวตึงเสื้อแดง” แสดงออกมา ขณะที่เจ้าตัวผู้ก่อเหตุถูกดำเนินคดี
ทว่า เรื่องนี้ก็มีดรามาที่ตามมาจนได้ ในคราเคราะห์ของ “พี่ศรี” กลับกลายเป็นโอกาสของ “ฝ่ายประชาธิปไตย” และ “ฝ่ายผสมโรง” หาช่องทางกอบโกยเงินบริจาค และโฆษณาขายสินค้า และบริการ
ยกตัวอย่าง อย่างรายที่ในโลกโซเชียลฯ วิจารณ์กัน ที่ร้านจำหน่ายเครื่องกีฬารายหนึ่ง สาขาพระราม 2 โพสต์ภาพแอ็กชันต่อยมวย คล้ายกรณีพี่ศรี แถมบูสต์โพสต์ ระบุข้อความว่า “เต็มๆ นะน้อง ไม่มีร้องนะจ๊ะ” “สำหรับผู้ใดสนใจ หรือชื่นชอบกีฬามวยไทย ที่ ...พระราม 2 มีสนามมวยให้บริการฟรีนะ รู้ยัง” ซึ่งก็ปรากฏว่า โดนทัวร์ไปลงสนั่น
ส่วนเรื่องของการรับบริจาคเงิน มีข่าวว่า “ลุงศักดิ์” ชกพี่ศรีเสร็จ กลับไปจัดรายการประกาศความสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมๆ กับเปิดรับเงินบริจาค โดยว่ากันว่า ยอดบริจาคเข้ามากว่า 6.5 ล้านบาท!!!
งานนี้ ปรากฏขึ้นมาจากโซเชียลฯ ที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่มีแนวคิดสนับสนุนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มราษฎร แชร์ภาพอินโฟกราฟิก ระบุว่า “ขอบคุณทุกกำลังใจยอดบริจาค 6,589,841.12 บาท ปิดรับบริจาคแล้ว พร้อมใบหน้าของ วีรวิชญ์ กำลังถ่ายทอดสด ระบุว่า “ทุกคน ลุงฝากแจ้งว่าให้หยุดโอนได้แล้ว ตอนนี้ปิดรับบริจาคแล้ว ที่น้ำตาซึม คือ ลุงบอกว่าไม่ได้เอาไปใช้ในคดีที่ต่อยศรีสุวรรณ ถ้าติดคุกก็ติดไป แต่ว่าจะเอาไปช่วยเหลือเด็กๆ เยาวชนที่โดน 112 อยู่ในคุกตอนนี้ อะมึง ฟังในไลฟ์ตะกี้ จะร้องไห้เลยนะ ลุงโคตรสุดจริงๆ ขอบคุณนะคะ #ศรีสุวรรณ จรรยา”
ไม่ใช่แค่ช่องลุงศักดิ์ ข่าวว่า มี “ก๊วนฝ่ายประชาธิปไตย” ตัวพ่อ ตัวแม่ ของฝ่าย “3 นิ้ว” ก็สบช่องขอรับบริจาคกันพรึ่บพรั่บ จากอานิสงส์เกาะกระแส ลุงศักดิ์ เฮโลไปตามกัน ปั่นยอดกันน่าดู ส่วนเงินจะไปเข้าใคร ยังไง ตรงนี้ไม่ต้องให้เซด เพราะ “ก๊วนขอบริจาค” อยู่ถูกที่ถูกเวลา สู้แล้วรวย ฉวยจังหวะจนร่ำรวยไปตามๆ กัน
ฟังว่า พอถูกถามเรื่องยอดเงินบริจาคที่อู้ฟู้ มีคนโอนมาชั่วข้ามคืนกว่า 6.5 ล้าน “ลุงศักดิ์” นักมวยคู่อาฆาตของ “พี่ศรี” ตอบด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวโวยว่า “เฟกนิวส์” สื่อไหนเอาไปลง มันจะเป็นไปได้อย่างไร ยืนยันว่า ยอดเงินไม่ถึง 6 ล้านบาท สื่อที่นำเสนอเรื่องนี้ ขอให้มาตรวจสอบ ถ้ามียอดเงิน 6 ล้านบาทจริงตามที่นำเสนอ จะยกเงินทั้งหมดให้เลย แต่ยอดเงินที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าไร ยังไม่รู้ เพราะเปิดดูไม่เป็น รอเรื่องคลี่คลายก่อน จะออกมาเปิดเผยทั้งหมด
นี่เรียกว่า ในเฟกมีเรื่องจริง เจ้าตัวก็ยอมรับเองว่า ยอดบริจาคนั่นมีแน่ แต่เท่าไหร่ยังไม่รู้ ตอนนี้ขออุบอิบไว้ก่อนว่ากันอย่างนั้น แล้วก็นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลฯ กันตามความคิดเห็นที่หลากหลาย ตั้งคำถามกันมากมาย บริจาคเพื่ออะไร เงินทุกบาททุกสตางค์นั้น จะถูกใช้ไปตามที่พูดจริงหรือ ?
สรุปไดัว่า ถ้าการใช้ความรุนแรงควรประณาม แต่การใช้ความรุนแรงมาหากิน ยิ่งน่าประณามมากกว่านะจ๊ะ
** “อนุทิน” ประกาศชัดไม่ร่วมก้าวไกล ถ้าเพื่อไทยจะไปร่วม แสดงว่า เห็นด้วยกับการแก้ ม.112
หลังจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรม ผู้ที่ต้องคดีอาญา มาตรา 112 เพื่อเป็นการคืนความยุติธรรมในยุคเปลี่ยนผ่าน ...สังคมไทยจะได้หลุดพ้นจากวังวนความขัดแย้ง แตกแยก เกลียดชังไม่สิ้นสุด กันเสียที
มีการอ้างถึงรัฐบาลยุคโน้น ออกนโยบาย 66/23 นิรโทษกรรมให้นักศึกษา ที่ฝักใฝ่ในแนวทางพรรคคอมมิวนิสต์ เข้าป่า จับอาวุธขึ้นสู้กับรัฐบาล ให้ได้กลับมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ก็เคยทำมาแล้ว
“ธนาธร” บอกอย่างไม่เหนียมว่า ตอนนี้ตัวเขาเองก็มีคดี ม.112 ติดตัวอยู่หลายคดี จึงอยากบอกว่าประชาชนควรจะออกมายืนยันร่วมกับเขา ว่า การเสนอเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เป็นเสรีภาพที่ทำได้...
คล้อยหลัง “ธนาธร” เสนอความเห็นไปไม่กี่วัน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็พาลูกทีมออกมาแถลงนโยบายพรรค ที่จะใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่นี้
ชุดนโยบายใหม่ ตั้งชื่อไว้เลิศหรูว่า “ไทยก้าวหน้า” เป้าหมายสร้างประเทศไทยก้าวหน้า 9 ด้าน คือ การเมืองไทยก้าวหน้า ราชการไทยก้าวหน้า ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า เกษตรไทยก้าวหน้า สวัสดิการไทยก้าวหน้า การศึกษาไทยก้าวหน้า สุขภาพไทยก้าวหน้า และสิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า
ในหัวข้อ “การเมืองไทยก้าวหน้า” มีเรื่องใหญ่ คือ การปฏิรูปศาลให้ยึดโยง รับใช้ประชาชน ต้องแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิ เสรีภาพของประชาชน อย่างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, มาตรา 116, พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์...
ที่ผ่านมา ประเด็นเหล่านี้พรรคได้เสนอแก้ไขไปแล้ว และขณะนี้ได้ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาแล้ว ยกเว้น “ร่างแก้ไข มาตรา 112” ที่สภาไม่ยอมบรรจุเข้าวาระ อ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่พรรคก้าวไกลยืนยันจะเดินหน้าผลักดันต่อไป หากได้เป็นรัฐบาลจะต้องทำให้สำเร็จ เพราะเห็นว่า การแก้ มาตรา 112 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กระทบต่อพระราชสถานะของพระมหากษัตริย์ ในฐานะประมุขของประเทศ...
เรียกว่า พรรคก้าวไกล จะ “ดันทุรัง” แก้มาตรา 112 ให้ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่ากระแสสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย !!
มีตัวแทนพรรคการเมืองออกมาแสดงความเห็นกันมาก...นักข่าวจึงนำประเด็นนี้ ไปถาม “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ขณะนี้กำลังมาแรง ขนาดอาจารย์ใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” ยังประเมินว่าเลือกตั้งครั้งนี้ น่าจะได้ ส.ส.ถึง 120 เสียง ... ถ้าเป็นดังว่า พรรคภูมิใจไทย อาจเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้
ดังนั้น พรรคภูมิใจไทย ต้องแสดงความชัดเจนเรื่องมาตรา 112 ต่อประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์!!
“อนุทิน” บอกว่า พรรคภูมิใจไทยก่อตั้งขึ้นมาโดยมีอุดมการณ์ทางการเมือง “ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ” เป็นข้อแรก และเป็นหัวใจในการทำงานของพรรค สมาชิกพรรคทุกคน
“พรรคภูมิใจไทย” ไม่มีนโยบาย ไม่มีความคิดเรื่องแก้ไขมาตรา 112
... ผมเชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้สึกว่ามาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะท้าทาย คิดจะทำผิดกฎหมาย แต่ก็กลัวโทษ จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมายนี้
“อนุทิน” มั่นใจว่า การแก้ไข มาตรา112 ไม่มีทางได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ใครจะคิดอย่างไร ลงมติอย่างไร ก็เป็นสิทธิของเขา แต่พรรคภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคพูดแทนสมาชิกทุกคนได้เลยว่า เราไม่แก้ไข และจะคัดค้าน ขัดขวางถึงที่สุด!!
ไม่เพียงเท่านั้น เราจะไม่ร่วมมือ ร่วมทำงานกับพรรคการเมือง นักการเมือง หรือกลุ่มการเมือง ที่เสนอแก้ไข มาตรา112 ทุกระดับ รวมไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า หรืออีกกี่ครั้งก็ตาม...
...ไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกลเท่านั้น แต่พรรคภูมิใจไทย จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคการเมืองที่มีนโยบาย มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112 รวมอยู่ด้วย เพราะมีอุดมการณ์ขัดแย้งกันจนไม่สามารถทำงานร่วมกันได้!!
นี่เป็นความชัดเจนจาก “อนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย!!
ดังนั้น ถ้า “พรรคเพื่อไทย” ที่ประกาศแลนด์สไลด์ จะเป็นรัฐบาล พาทักษิณกลับบ้าน หากไปเอา “ก้าวไกล” มาร่วมรัฐบาล นั่นแสดงว่า เห็นด้วย และยอมรับนโยบายแก้มาตรา 112 ... หากเป็นเช่นนั้น ก็จะไม่มีพรรคภูมิใจไทยไปเข้าร่วมแน่นอน