หัวหน้า ปชป. ยันไม่กดดันนายกฯ ปรับ ครม. เข้าใจต้องใช้เวลา มั่นใจ ปชป.ไม่มีเลือดไหล ชี้ เข้าโหมดเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดาคนย้ายพรรค โวกวาดที่นั่ง ส.ส.ใต้ เกิน 22 ที่นั่ง ย้ำ จุดยืนพรรคยึดสถาบัน ไม่หนุนแก้ ม.112
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ให้รออีกนิด ว่า ได้คุยกับนายกฯไปก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ เป็นดุลพินิจของนายกฯที่จะพิจารณาว่าจะดำเนินการเมื่อไหร่ อย่างไรตนให้เกียรตินายกฯ ไม่ไปคาดคั้น เพราะถือว่าภารกิจของพรรคประชาธิปัตย์เสร็จสิ้นแล้ว ขอให้ทุกคนให้เวลานายกฯใช้ดุลพินิจ เราเคยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเข้าใจดีว่าต้องดูอะไรบ้าง ขอให้ทุกคนให้เกียรติและให้เวลากับนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวว่า คนระดับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะย้ายออก นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่มีใครย้ายออก และนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธไปแล้ว และไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน บางข่าวก็มุ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์ ติดลบ บางข่าวก็ปรารถนาดีและปรารถนาไม่ดีกับเราก็มี แต่ในภาพรวมทุกพรรคการเมือง เมื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งย่อมเกิดปรากฏการณ์มีคนเข้า คนออก เห็นได้จากทุกพรรค โดยสามารถเกิดได้จากหลายเหตุผล เช่น บางเขตเลือกตั้งมีผู้เสนอตัวลงสมัครมากกว่าหนึ่งคน เมื่อพักตัดสินใจเลือกคนใดคนหนึ่งคนก็อาจจะเลือกไปลงสมัครพรรคอื่น สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดเตรียมผู้สมัครไว้ครบหมดแล้วและจะทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร นครศรีธรรมราช พัทลุง นครราชสีมา
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ ส.ส.ในภาคใต้มากขึ้นกว่าเดิม นายจุรินทร์ กล่าวว่า “ผมมั่นใจ และเคยพูดไว้หลายครั้งแล้วว่าต้องเกินกว่าที่เคยได้ 22 ที่นั่ง แน่นอน และกล้ายืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคหนึ่ง ที่เสนอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเป็นสถาบันการเมือง ทำงานโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมและประชาชนเป็นหลัก ไม่ยึดผลประโยชน์ส่วนตัว และยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์มากขึ้น โดยไม่แตะหมวดหนึ่งหมวดสอง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เอาด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีบทคุ้มครองประมุขของประเทศ