บ้านเรามีเรื่องไร้สาระมาถกเถียงกันอย่างจริงจัง สะท้อนให้เห็นระดับวุฒิภาวะและความเข้าใจว่าปัญหาแท้จริงของประเทศคืออะไร ยิ่งมีเรื่องไร้สาระมาเป็นประเด็นมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะกลบเรื่องสำคัญ ช่วยให้ตัวการผู้กระทำผิดรอดไปได้
หลายประเด็นสำคัญที่ประชาชนยังรอคำตอบ นั่นคือคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 6 ท่าน ทุกวันนี้ยังไม่มีการเปิดเผยแม้แต่รายเดียว ทั้งที่ 3 ตุลาการเสียงข้างน้อยได้ให้เหตุผลต่างๆ ไปหมดแล้ว ดูดีด้วยแหละ
สังคมวิญญูชน นักกฎหมายก็ไม่ได้ตั้งคำถามถึงเหตุผลของทั้ง 3 ท่าน
แต่ตอนนี้มีคำถามว่าอีก 6 ท่านจะพร้อมให้ประชาชนรับทราบความเห็นของท่านกรณีการเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้เมื่อไหร่
เพื่อให้เป็นความรู้และให้นักกฎหมายถกกันถึงเหตุผล เพราะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมและสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ
หรือจะต้องให้ประชาชนต้องรออีกนานแค่ไหน มีปัญหาอะไร ถ้าแถลงให้ทราบด้วยก็จะเป็นการดีอย่างยิ่ง แต่ประชาชนไม่ลืมแน่นอน และจะมีคนทวงถามตลอด
อีกเรื่องสำคัญที่ชาวบ้านอยากรู้คำตอบ โดยเฉพาะชาวเพชรบูรณ์ ก็คือเงินช่วยเหลือ 50 ล้านบาทสำหรับชาวไร่ยาสูบหายไปไหน เมื่อมีคนเบิกไปแล้ว
นี่เป็นคำถามที่หัวหน้ารัฐบาลถามในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ไม่มีคำตอบ ลุงป้อมซึ่งรับผิดชอบพรรคพลังประชารัฐ และเลขาธิการพรรครับรู้เรื่องนี้ มีคำตอบหรือยัง เงิน 50 ล้านบาทมาจากภาษีของประชาชน หรือจากงบประมาณ ใครก็อมไม่ได้
เรื่องนี้ผลสุดท้ายต้องเป็นความรับผิดชอบของหัวหน้ารัฐบาล ถ้าลุงป้อมไม่สามารถหาคำตอบได้ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ ต้องตอบด้วยว่าทำไมไม่มีคำตอบ เมื่อตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่ว่าลุงป้อมจะถามด้วยตัวเองหรือไม่ก็ตาม
นี่เป็นประเด็นน่าสงสัย เพราะประเทศไทยมีปัญหาเรื่องทุจริต คอร์รัปชันเรื้อรัง แต่ละโครงการมีกลิ่นเน่าตลอด โดยเฉพาะการก่อสร้างทุกขนาด รัฐบาลมีปัญหาความน่าเชื่อถือเมื่อไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตนี้ได้ ถูกมองว่าไม่เอาจริงด้วย
การเอาเรื่องไม่เป็นสาระมาป่าวร้องให้เป็นเรื่องใหญ่ อย่างเช่นนักทอล์กโชว์ตลก จนถูกกล่าวหาว่าเป็น “ตลกชังชาติ” ต้องถูกมองว่าเอามากลบปัญหารัฐบาล
การชังหัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่การชังชาติเด็ดขาด เพราะไม่มีบุคคลใดในประเทศนี้อ้างว่าตัวเองเป็นชาติ เพราะความเป็นชาติประกอบด้วยประชาชนเป็นหลัก
เรื่องง่ายๆ ทำให้เป็นเรื่องดูยากอีกเรื่องคือคำพูดของสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ คุณวีรกร คำประกอบ ที่ว่าถึงเวลาที่ “ลุงป้อม” และ “ลุงตู่” ต้องคุยและตกลงกันว่าใครจะเป็นตัวแทนพรรคชิงเก้าอี้นายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ป้าดโธ่! ไม่เห็นจะต้องเป็นเรื่อง เมื่อ “ลุงป้อม” เป็นหัวหน้าพรรค ธรรมเนียมปฏิบัติสากลก็คือ “ลุงป้อม” ต้องเป็นแคนดิเดต ตัวแทนเข้าชิง เพราะ “ลุงตู่” ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และไม่มีเหตุอันใดที่ต้องตั้งคนนอกพรรคมาเป็นคู่ชิงนายกฯ
หรือจะให้บอกเป็นนัยว่า “ลุงป้อม” ไม่มีความสามารถเป็นนายกฯ
จะถามได้อย่างไร เมื่อทั้งคู่อยากเป็นนายกฯ ขนาด “ลุงตู่” เป็นนายกฯ ครบ 8 ปีแล้วแท้ๆ ก็ยังอยากเป็นต่อ โดยโบ้ยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จนได้อยู่ต่อ
ถึงได้ถามว่าเหตุผลของแต่ละตุลาการที่ให้อยู่ต่อนั้นว่าอย่างไร เพราะมีผลดี ผลเสียต่อประเทศ ที่เห็นก็เป็นผลดีของผู้ได้ประโยชน์ แต่เสียศรัทธาของประชาชน
คนทั้งพรรคพลังประชารัฐก็รู้ว่า “ลุงตู่” อยู่มาครบ 8 ปีแล้วด้วย เพราะได้เสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ตั้งแต่ต้น และลุงตู่ยังอยากอยู่ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นไปได้
หรือถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนจีน และรัสเซียให้เป็นอีกได้ ก็อยากให้ทำ
คำถามก็คือ คุณวีรกร และสมาชิกพรรคตัดสินใจหรือยังว่าควรให้ใครเป็น หรือการที่ “ลุงตู่” เป็นมาเกิน 8 ปีแล้วยังไม่พอ จะให้ลุงป้อมเป็นหัวหน้าพรรคทำไม
ถ้ายังอยากถามทั้งคู่ ก็จะไม่มีคำตอบ และคงไม่อยากให้ใครถามด้วย “ลุงตู่” เป็นคนนอกพรรค ไม่ได้ลงทุนหรือมีกิจกรรมร่วมกับพรรคอย่างใด มีสิทธิยุ่งกับสมาชิกพรรคก็ต่อเมื่อคนพลังประชารัฐอยู่ในคณะรัฐมนตรี โดยการแต่งตั้งโดยลุงตู่
แต่เมื่อมีปัญหาเรื่องเงิน 50 ล้านบาท ลุงตู่ก็ไม่ยอมตรวจสอบ แต่ให้ลุงป้อมจัดการในฐานะหัวหน้าพรรค ทั้งที่ลุงป้อมไม่ได้คุมกระทรวงการคลัง
ไปนั่งคุยกันนั่นแหละ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ให้ได้ความว่าเงิน 50 ล้านบาทที่เลขาธิการพรรคเบิกไปให้ชาวบ้านนั้น เอาไปจ่ายให้ใครที่ไหนหรือยัง มีปัญหาอะไร
ไม่อย่างนั้นลุงป้อมจะไม่มีคำตอบให้ลุงตู่ และประชาชนที่อยากรู้เรื่องจริง
ถ้าเงิน 50 ล้านมีปัญหา แล้วโครงการขนาดใหญ่อย่างการก่อสร้างรถไฟฟ้า รถใต้ดิน หรือโครงการอื่นๆ จะไม่มีปัญหาและคำถามแทงใจอย่างนี้หรือ
จะทำเป็นลืมไม่ได้ เพราะชาวเพชรบูรณ์ที่เดือดร้อนรออยู่ จะส่งผลต่อการเลือกตั้งด้วย ถ้าชาวเพชรบูรณ์ หรือสื่อจ้องถามถึงเรื่องน่าอึดอัดใจอย่างนี้
ยิ่งมีข่าวว่ามีลูกพรรคจะกระโดดหนีอีกด้วย จะไปหาเสียงลำบาก
อ้อ! มีข่าวว่าทั้ง 2 ลุงจะเคลียร์กัน จะมีปรับ ครม.หรือไม่ เพราะมีเสียงเรียกร้องจากพรรคร่วมรัฐบาล และจะเอาเรื่องเงิน 50 ล้านเป็นเหตุด้วยหรือไม่
นี่จะเป็นประเด็นความน่าเชื่อถือของรัฐบาลที่มีเหลือน้อย บางพวกก็ว่าติดลบไปแล้ว ถ้าตั้งรัฐมนตรีใหม่ ฝีมืออยู่ในระดับโหลยโท่ย มีสีเทาเข้มด้วย การอยู่ต่อไปไม่ทำให้รัฐบาลดูดีขึ้น ทุกวันนี้หัวหน้าคณะแม้รอดมาได้ก็ไม่มีราคาเหมือนเดิม