โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯยังไม่พูดถึง ครม.สัญจร เน้นเตรียมพื้นที่กรุงเทพฯ รับการประชุมเอเปก ประชาสัมพันธ์คนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดี ไม่ว่าจะมีทัศนคติทางการเมืองรูปแบบไหน ชี้ ไทยได้ประโยชน์ไม่ใช่กลุ่มการเมืองใด
วันนี้ (19 ต.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการปรับประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร มีแนวคิดหรือไม่หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ว่า นายกฯยังไม่ได้พูดถึง ตอนนี้เน้นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมเอเปกในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตือนใน 180 วัน ซึ่งจริงๆ แล้ว การประชุมเอเปก จะเริ่มวันที่ 14 พ.ย. ไม่ใช่เริ่มวันที่ 18 พ.ย.ที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจจะเริ่มทยอยมา การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มก่อน จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมทุกส่วนและทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความมั่นคง ความปลอดภัย การจัดรายละเอียดการต้อนรับ ไม่ใช่เฉพาะผู้นำอย่างเดียว แต่รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดบสูงรวมถึงคู่สมรสที่จะมาด้วย ซึ่งนอกเหนือจากการประชุมหลักจะมีกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ นายกฯบอกว่าถึงเวลาต้องลงรายละเอียดแล้ว โดยคู่สมรสรัฐมนตรีจะมีส่วนร่วมในกิจกรรม โดย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในกิจกรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงนี้ต้องรุกการประชาสัมพันธ์เป็นพิเศษหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตรงนี้มีคณะกรรมการดูแลในส่วนต่างๆ ซึ่งมีการประชาสัมพันธ์นำรถโมบายปล่อยขบวนไปตามจุดต่างๆ ในประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนเกิดความมีส่วนร่วมในฐานะไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเฉพาะข้อดีของประชาชนที่จะได้อะไรจากการประชุมในครั้งนี้ เมื่อถามว่า ได้มีการดูผลการประชาสัมพันธ์หรือไม่ว่าประชาชนส่วนใหญ่รับรู้กับกิจกรรมที่จะเกิดอย่างไร นายอนุชา กล่าวว่า ประชาชนส่วนใหญ่รู้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปกปีนี้ แต่รายละเอียดเพิ่มเติมเนื้อหาสาระและประเด็นที่จะพูดคุยกันรัฐบาลจะเพิ่มเรื่องของโซเชียลมีเดียและการทำสปอร์ตประชาสัมพันธ์ให้เกิดความสนใจ เพื่อให้เนื้อหาเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น ทั้งรูปแบบของศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินลูกทุ่ง เพื่อให้ประชาชนทุกระดับเข้าถึง
เมื่อถามว่า มีรูปแบบอย่างไรให้ประชาชนเข้าร่วม นายอนุชา กล่าวว่า อย่างน้อยตอนนี้ให้ประชาชนรู้สึกภูมิใจในฐานะที่เราเป็นเจ้าภาพ เพราะกว่าจะวนกลับมาเป็นเจ้าภาพอีกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมี 21 เขตเศรษฐกิจ ฉะนั้นทุกประเทศอยากจะเป็นเจ้าภาพกันทั้งนั้น ซึ่งช่วงก่อนหน้านี้ 2-3 ปีไม่มีการประชุมเลย โดยเป็นการประชุมออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งการประชุมประเทศไทยครั้งนี้จะมีผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาประชุมด้วยตัวเอง ถือเป็นการประชุมครั้งแรกที่มารวมกันและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบทบาทของไทยในประชาคมโลกครั้งนี้ หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19
เมื่อถามว่า นายกฯห่วงการชุมนุมต่างๆ ที่จะมาแสดงศักยภาพในช่วงที่ผู้นำหลายประเทศมาไทยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ตอนนี้เราพยายามให้ทุกคนทราบถึงความสำคัญในการประชุมนี้ ไม่ว่าจะมีทัศนคติทางด้านการเมืองในรูปแบบไหน การเป็นเจ้าภาพประเทศไทยได้ประโยชน์ ไม่ใช่กลุ่มการเมืองใดได้ประโยชน์ ถือว่าคนไทยเราร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีและดูแลเรื่องสิ่งต่างๆที่อาจจะไม่เหมาะสม ในช่วงระยะเวลาการประชุมในทางกลับกันต้องทำให้เกิดความประทับใจ ทำให้ทุกๆชาติที่มีโอกาสมาประชุมและกลับไปพูดต่อๆได้ในสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงเตรียมจัดพื้นที่ให้กลุ่มที่แสดงจุดยืนหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ในรายละเอียดจะมีการดูแลความปลอดภัยในเบื้องต้น ส่วนการชุมนุมจะเป็นอย่างไรเราขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนเป็นเจ้าภาพที่ดีก่อนจะดีกว่า อย่าเพิ่งพูดถึงการจัดอะไรต่างๆตรงนั้น เราขอให้ทุกคนมองถึงความสำคัญการเป็นเจ้าภาพและทำให้เขาเกิดความประทับใจ ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่อยากจะสื่อให้ประชาชน เมื่อถามว่าเบื้องต้นระดับผู้นำประเทศได้ยืนยันที่จะมาร่วมหรือแจ้งการตอบรับมาแล้วหรือยัง นายอนุชา กล่าวว่า มีหลายประเทศที่ตอบรับมาชัดเจน แต่ด้วยธรรมเนียมปฏิบัติคงไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าประเทศไหนที่จะมาหรือผู้นำคนใดที่จะมาได้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมของกระทรวงการต่างประเทศที่จะพิจารณาว่าพร้อมจะเปิดเผยอย่างไร ซึ่งผู้นำแต่ละประเทศก็ยังไม่แจ้งในประเทศของเขาเองด้วยซ้ำ หากเขายังไม่แจ้งภายในประเทศว่าจะมาอยู่ดีๆเราไปบอกว่าประเทศนั้นประเทศนี้ ผู้นำคนนั้นคนนี้จะมาจะผิดธรรมเนียมปฏิบัติ
เมื่อถามว่า เป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า มีหลายส่วนไม่ใช่เฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัย เป็นเรื่องของความจำเป็นในพื้นที่ของแต่ละประเทศที่เขามีร่วมกัน อย่างบางประเทศที่เกิดสถานการณ์น้ำท่วมเขาก็ยังอยากประกาศว่าผู้นำของเขาจะเดินทางไปต่างประเทศหรือมีสถานการณ์ความไม่สงบอะไรต่างๆ รออีกสักนิดประกาศแน่นอน เมื่อถามว่า เราได้มีการเชิญแขกพิเศษที่ไม่ใช่สมาชิกมาด้วยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า แขกพิเศษเราเชิญหลักๆ 3 ประเทศ เข้าใจว่ากระทรวงการต่างประเทศได้พูดบางส่วนไปแล้ว แต่จะมีการเปิดรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง