ข่าวปนคนคนปนข่าว
**ทางใครทางมัน "เพชรยินดี" สะบั้น "วันแชมเปียนชิพ" "เสี่ยโบ๊ท-เสี่ยเน้า" ปูดงานนี้มีเบื้องหลัง
ช่วงนี้แวดวงมวยไทยมีเรื่องดรามา ให้ได้วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น หลังมีข่าว "เพชรยินดี" ค่ายมวยดังทิ้งทุ่นระเบิดเข้าใส่ "วัน แชมเปียนชิพ" รายการมวยดังระดับเอเชีย
คนอัดอั้นตันใจอย่าง "เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มแห่งค่ายมวยเพชรยินดี ได้ไลฟ์สด ยืนยันได้ยื่นเรื่องขอถอน 6 นักชกในค่าย ประกอบด้วย... เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี, ฤทธิ์เทวดา เพชรยินดีอะคาเดมี, เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี, กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี, ซาวาส ไมเคิล และ มงคลเพชร เพชรยินดีอะคาเดมี ออกจากรายการดัง "วัน แชมเปียนชิพ" เนื่องจาก มีปัญหากันสะสมมาหลายเรื่อง
“เสี่ยโบ๊ท” และ "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ บอกเล่าสาเหตุของการประกาศ "ทางใครทางมัน" ครั้งนี้ อย่างแรกเลย คือ รายการมวยดัง วัน แชมเปียนชิพ ไม่เห็นหัวค่าย "เพชรยินดี" เป็นตัวเลือกแรกๆ เหมือนสมัยก่อน
เรียกว่า พอมีตัวเลือกอื่นก็ถีบหัวส่งคนเดิม แบบนี้ก็จะให้กล้ำกลืนอย่างไรไหว
ต่อมา จากศึก ONE 161 ที่มีประเด็นดรามาว่า "เสี่ยโบ๊ท" เป็นหัวหน้าคณะ แต่กลับไม่สามารถเข้าไปเชียร์ "เพชรมรกต" นักมวยตัวเองได้ แต่รายการกลับเชื้อเชิญใครบางคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับมวยในวันนั้นเข้าไปนั่งชมในฐานะคนดูหน้าตาเฉย
มิหนำซ้ำ ในไฟต์ที่ “เพชรมรกต” พ่ายแพ้ให้กับ “ตะวันฉาย” โดยปกติแชมป์โลกจะต้องได้สิทธิ์ในการนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ และเมื่อถึงที่หมาย จะต้องมีรถตู้หรูมารับ แต่ครั้งนั้น "เพชรมรกต" และคณะ กลับถูก "ด้อยค่า" ได้ตั๋วของแอร์เอเชีย ซึ่งเป็นชั้นประหยัดเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกหลายประเด็นที่ "เสี่ยโบ๊ท" บอกว่า ไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้ เอาเป็นว่า หลายๆเรื่อง ที่สะสมมามันมาถึงจุดที่ไปต่อกันไม่ได้ ก็สิ้นสุดกัน ถึงจุดแตกหักกันเสียที
จากนี้ไป “เสี่ยโบ๊ท” ยืนยันว่า 6 นักมวยของค่าย "เพชรยินดี" จะไม่ต่อยในศึก "วัน แชมเปียนชิพ" อีกแล้ว และ อนาคตจะหันไปจัดแข่งขันด้วยตัวเอง
งานนี้แฟนมวยเห็นใจ ส่งกำลังใจถึงค่ายเพชรยินดีกันในโซเชียลฯ ตามสำนวนไทยๆ ที่ว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก แต่ก็แอบบ่นเสียดายค่าตัวนักมวยที่หาก “เสี่ยโบ๊ท-เสี่ยเน้า” จัดเอง ก็ไม่รู้ว่าจะได้รางวัลมากเท่ารายการวันแชมเปียนชิพ ไหม?
ยังไงๆ เรื่องนี้จะเป็นอย่างไรคอหมัดๆ มวยๆ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป
** “ลุงตู่”เหมือนหมดแรงบันดาลใจ ปล่อย“ลุงป้อม” โชว์ฟิต ลงพื้นที่เป็นขวัญใจประชาชน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม จ.นนทบุรี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกิดมี “กลุ่ม3นิ้วเมืองนนท์” ระดมพล ไปดักรอ มีทั้งป้ายขับไล่ เตรียมถุงอึ ถุงน้ำปลาร้า จะขว้างใส่ จนทำให้ต้องเปลี่ยนแผนหลบไปที่อื่นก่อน เล่นเอา“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับบ่นอุบว่า ตั้งใจจะมาช่วยเหลือประชาชน ทำไมต้องมีแบบนี้ด้วย
อาจจะน้อยใจ ช่วงเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา “ลุงตู่” เลยหลบไปตีกอล์ฟ แทนการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ทั้งที่มีปัญหาน้ำท่วมครึ่งค่อนประเทศ
ต่างจาก “ลุงป้อม” ที่เช้าวันจันทร์ ก็กุลีกุจอ พาทีมงานลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามสถานการณ์น้ำ ตรวจโครงการแก้มลิง ดูการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม ที่ฝนกำลังจะลงภาคใต้
ไปรับฟังรายงานสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน พบปะเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ที่ช่วงสองสามปีมานี้ราคาดีขึ้น ต่อเนื่อง ตอนนี้ขยับไปถึงกก.ละ 8 บาทแล้ว เกษตรกรใส่ทองเส้นเบ้อเริ่ม มีสาวมาคล้องพวงมาลัย ขอหอมแก้ม เด็กขอเข้ามากอด มีเสียงตะโกนของชาวบ้าน...“ลุงป้อมสู้ๆ” เกษตรกรที่มีปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน มาขอให้ช่วย “ลุงป้อม” ก็บอก โอเคครับ จัดเลย!!
การลงพื้นที่ของ“ลุงป้อม” เป็นบรรยากาศที่คึกคัก ผู้คนยิ้มแย้ม แจ่มใส
ขณะที่วันจันทร์นี้ของ “ลุงตู่” หลังจากเข้าทำเนียบฯแล้วก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องทำงาน ถึงบ่ายสามก็ออกจากทำเนียบฯ กลับบ้านไม่ยอมพบนักข่าว แม้แต่ปัญหาน้ำท่วมยังให้ “อนุชา บูรพชัยศรี” รองเลขาธิการนายกฯ ที่ทำหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ เป็นคนให้ข่าว ว่ามีความเป็นห่วงเป็นใยประชาชนในเรื่องไหน อย่างไรบ้าง
นักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งข้อสังเกตว่า ที่นายกฯ ไม่ยอมพบนักข่าวในช่วงสองสามวันนี้ คงเป็นเพราะไม่อยากตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ...คือไม่รู้จะตอบยังไงดี!!
อย่างเรื่องปรับครม. ที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ส่งชื่อ “นริศ ขำนุรักษ์” มาเป็น รมช.มหาดไทย แทน นิพนธ์ บุญญามณี แล้ว ก็อยากจะรู้ว่าเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และ เก้าอี้รมช.แรงงาน ในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่างมาเป็นปีแล้วนั้น จะปรับไปพร้อมกันไหม มีคนมานั่งหรือยัง ...เพราะถ้ายัง ต้องปล่อยว่างไว้เหมือนเดิม นั่นก็ตีความได้ว่า ระหว่าง “พี่น้อง2ป.” ยังตกลงกันไม่ได้ ว่าคนที่จะมานั่ง ควรเป็นคนของ ป.ที่เป็นนายกฯ หรือ ป. ที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ...ที่บอกว่ารัก กลมเกลียวกันนั้นมันคนละเรื่อง
ยังมีเรื่องที่ “วีระกร คำประกอบ” ส.ส.แก่พรรษา ซึ่งเป็นกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ออกมากระทุ้ง “ลุงตู่” ให้รีบมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก่อนสิ้นเดือนต.ค.นี้ จะได้มีความชัดเจน จะได้มีการประชุมเพื่อตั้งกรรมการบริหารพรรค มาร่วมทำนโยบาย มาร่วมแถลงนโยบาย ให้สมกับที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เบอร์ 1 ของพรรค จะได้เป็นขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกพรรค ข่าวลือเรื่องส.ส.ย้ายพรรค จะได้หมดไปเสียที ...ตกลงเรื่องนี้ “ลุงตู่” จะเอายังไง
อีกเรื่องที่สังคมอยากรู้ก็คือ เรื่องที่ “ลุงตู่” โดน “โน้ส” อุดม แต้พานิช แซวแบบเจ็บๆ ในทอล์กโชว์ “เดี่ยว 13” อย่างเช่น ...อยู่เพื่อสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ ...บริหารแบบโปร่งใส แต่ไม่ให้ตรวจสอบ...หรืออย่างมุกที่ว่า จุดแข็งคือหัว จุดอ่อนคือสิ่งที่อยู่ในนั้น ...
เหล่านี้กำลังเป็นประเด็นดรามาในโลกโซเชียลฯ และสังคมนอกโซเชียลฯ เรียกวามี “ติ่ง” ของแต่ละฝ่ายออกมาตอบโต้กัน จนถูกลากไปเป็นประเด็นการเมืองเรียบร้อยแล้ว
เรื่องนี้ “ลุงป้อม” ได้ออกมาแสดงความเห็นแล้ว โดยบอกว่า ติดตามดูเดี่ยวของ “โน้ส -อุดม” มาตลอด ชื่นชอบในความสามารถของเขา
“ผมคิดว่าเขาพูดเพื่อความบันเทิงในการแสดงทอล์กโชว์ เชื่อว่าคนดูก็มีวิจารณญาณในการรับฟังเนื้อหาต่างๆ อยู่แล้ว ไม่ควรนำมาเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร”...“ลุงป้อม” ชัดเจนแล้วว่า เป็นเรื่องขำขำ
แล้ว “ลุงตู่” จะว่าอย่างไร... นักข่าวนั่งรออยู่ที่หน้าทำเนียบฯ ทั้งวัน เพราะรู้ว่าคนทั้งประเทศก็อยากรู้เรื่องนี้ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้คำตอบ ต้องไปรอลุ้นเอาเช้าวันอังคาร ที่จะมีประชุมครม. ว่า “ลุงตู่” จะยอมตอบปัญหาการเมืองที่ยกมาข้างต้นหรือไม่
มีคนตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อ“ลุงตู่” กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯอีกครั้ง หลังถูกศาลฯสั่งพักงานไปเดือนกว่า ก็รู้สึกว่าขาดความกระฉับกระเฉง ความกระตือรือร้นหดหาย เหมือนคนขาดแรงบันดาลใจ อยู่ไปวันๆ เพื่อรอกระทบไหล่ผู้นำชาติมหาอำนาจ ที่จะมาร่วมประชุมเอเปค เท่านั้น
ต่างจาก “ลุงป้อม” ที่กระฉับกระเฉง ใช้ใจบันดาลแรง เดินหน้าทำงานการเมืองอย่างมิรู้เหน็ดรู้เหนื่อย