เมืองไทย 360 องศา
พิจารณาตามรูปการณ์แล้ว เชื่อว่า อีกไม่นานคงต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน แต่น่าจะออกมาในแบบ “ปรับเล็ก” เฉพาะโควตาบางพรรค ซึ่งในที่นี้น่าจะออกมาแบบปรับเฉพาะโควตาของพรรคประชาธิปัตย์เพียงหนึ่งตำแหน่ง คือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แทน นายนิพนธ์ บุญญามณี ที่ลาออกหลังจากถูกฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทาง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
โดยล่าสุด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า ได้พูดคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว
“วันนี้ (5 ต.ค.) จะหารือกับ ท่านนายกรัฐมนตรีว่ามีความเห็นอย่างไร เพราะนายกฯมีอำนาจปรับ ครม. โดยในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์ที่จะให้มีบุคคลของพรรคประชาธิปัตย์ มาทำหน้าที่แทนคุณนิพนธ์ (บุญญามณี) ที่ได้ลาออกในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ซึ่งขณะยังไม่ได้พิจารณาตัวบุคคล และยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และทุกอย่างเป็นไปตามระบวนการของพรรค ไม่มีปัญหาอะไร”
ถามว่า ภายหลังจากนายกฯกลับเข้ารับหน้าที่ได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกันหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องการปรับ ครม.ยัง และเรื่องการปรับ ครม.เป็นสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ส่วนพรรคการเมืองอื่นขึ้นกับพรรคการเมืองนั้น ไม่มีผลผูกพัน และไม่ต้องการให้กระทบพรรคอื่น ส่วนพรรคอื่นจะปรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพรรคนั้น และขึ้นอยู่กับดุลพินิจนายกฯ ด้วย
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลวันเดียวกันเมื่อถูกถามว่า จะมีการปรับ ครม.หรือไม่ หรือทูลเกล้าฯ ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรทั้งนั้น ยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรื่องการปรับ ครม.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็คุยกันบ้าง เมื่อถามย้ำว่า นายจุรินทร์ ได้มีการแจ้งหรือไม่ ว่าจะขอปรับ ครม.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เดี๋ยวค่อยคุยกัน เมื่อถามว่า บรรยากาศ ครม.เป็นอย่างไรบ้าง หลังจากนายกฯ ประชุมนัดแรก นายกฯกล่าวว่า ดีจ๊ะ ยังดีเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งงดแถลงข่าว โดยทันทีที่ลงมาจากห้องประชุม ครม. ได้เดินกลับไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที ท่ามกลางสายฝน โดยไม่หยุดให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ดักรอสัมภาษณ์ ขณะที่สื่อมวลชนได้พยายามสอบถามถึงความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร และการปรับ ครม. ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ เลี่ยงที่จะตอบประเด็นทางการเมือง โดยตอบเพียงสั้นๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจก็ต้องทบทวนตำแหน่งรัฐมนตรีที่ว่างอยู่ในเวลานี้ ว่า มีกี่ตำแหน่ง รวมไปถึงมีรัฐมนตรีบางคนที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมแล้ว 4 ตำแหน่ง โดยสองตำแหน่งแรก เป็นระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง ที่ว่างลงหลังจากการพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ในโควตาของพรรคพลังประชารัฐ
ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออก โควตาของพรรคประชาธิปัตย์ และกรณีของ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่หลังจากถูกฟ้องในคดีรุกป่าสงวนฯ โดยเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีในโควตา พรรคภูมิใจไทย
ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงท่าทีออกมาว่า ยังไม่ปรับตำแหน่งดังกล่าว
โดย นายอนุทิน กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า นายกรัฐมนตรียังไม่ส่งสัญญาณใดๆ มา รอให้นายกฯ ส่งสัญญาณมาก่อนค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ขอปรับ พรรคภูมิใจไทยจะไม่ปรับคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ขอดูสถานการณ์ก่อน ซึ่งตอนนี้นายกฯ ยังไม่ได้เรียกไปหารือ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย จะมีการประชุมผู้บริหาร และดูเหตุผลว่าสมควรจะปรับหรือไม่ ค่อยว่ากัน และพรรคภูมิใจไทยโชคดีที่ตำแหน่งที่ว่างเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ไม่กระทบต่อการทำงานมากนัก ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังไม่คิดอะไรจริงๆ
เมื่อถามว่า วานนี้ บอกว่า มีคนในใจอยู่แล้ว นายอนุทิน ถามกลับว่า ใจใคร ใจผมตั้งแต่มีแฟนมาก็มีแฟนอยู่ในใจคนอื่นก็ไม่มี เมื่อถามว่าคนที่จะมาแทนมีข่าวว่ามาจากสัดส่วนของ จ.ปราจีนบุรี นายอนุทิน กล่าวว่า ของบางอย่างการเป็นหัวหน้าก็ต้องเก็บไม่ให้ใครรู้มาก
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาจากท่าทีและคำพูดของบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นแล้ว พอสรุปฟันธงได้เลยว่าตำแหน่งที่ต้องปรับแน่นอน คือ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ แทนนายนิพนธ์ บุญญามณี ส่วนจะเป็นใครที่จะมานั่งแทน ล่าสุด ที่น่าจับตาก็คือ นายเดชดิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ซึ่งเวลานี้เป็นรองหัวหน้าพรรค คุมภาคใต้ ถือว่ามาแรงมาก ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อย โดยเฉพาะหากพิจารณาถึงความจำเป็นในทางการเมือง และการเลือกตั้งในครั้งหน้าที่ภาคใต้ ถือว่าเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของพรรค และกำลังถูกรุกคืบเข้ามาอย่างหนัก
ส่วนตำแหน่งอื่นที่มีข่าวว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วย เช่น กรณีของ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและความมั่นคงของมนุษย์ นาทีนี้ยังเป็นรายงานข่าว ซึ่งมีแบบนี้มาตลอด ยังไม่ชัวร์
ส่วนโควตาของพรรคอื่น เช่น พลังประชารัฐ ที่มีว่างอยู่สองตำแหน่ง ก็เป็นระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการ และว่างเว้นมานานปีกว่าแล้ว ทุกอย่างอาจเข้ารูปเข้ารอย อาจไม่มีความจำเป็นต้องไปทำให้เกิดแรงกระเพื่อมขึ้นมาก็เป็นได้ นั่นคือ คงไว้แบบเดิมก็เป็นไปได้ เหมือนกับกรณีของพรรคภูมิใจไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวเป็นนัยออกมาให้เห็นแล้วว่า แค่รัฐมนตรีช่วยว่าการหนึ่งตำแหน่ง ไม่กระทบการทำงาน
อย่างไรก็ดี ก็ต้องพิจารณาจากท่าทีของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย ว่าจะเอาอย่างไร จะถือโอกาสปรับใหญ่พร้อมกัน 4 ตำแหน่งแทนที่ว่างอยู่หรือไม่ หรือเพิ่มเติมตามรายงานอ้างว่ามีถึง 6-7 ตำแหน่ง แต่หากมองถึงผลกระทบอาจตามมาในเรื่องของที่อาจทำให้เกิด “แรงกระเพื่อม” โดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อว่าต้องเกิดขึ้นแน่นอน จะคุ้มกันหรือไม่ กับเวลาที่เหลือของรัฐบาลอีกไม่กี่เดือน
ดังนั้น นาทีนี้หากพิจารณาจากท่าทีและความเคลื่อนไหวล่าสุดการปรับคณะรัฐมนตรีที่เป็นไปได้ที่สุด ก็คือ อาจจะปรับแค่โควตาของพรรคประชาธิปัตย์ ในเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือว่าจำเป็น และมีผลทางการเมืองของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งเพียงแค่นี้ก็เสี่ยงกับการ “ฟาดฟัน” ภายในถึงขั้นเลือดสาดอยู่แล้ว แต่หากปรับในโควตาพรรคอื่นตามมาอีก เช่น พลังประชารัฐ ที่บอกว่า อาจมีรัฐมนตรีในโควตาภาคใต้เข้ามาเสริมอีกก็เป็นไปได้ แต่เสี่ยงวุ่นวาย จะคุ้มหรือไม่ !!