“ประยุทธ์” มอบรางวัลอุตสาหกรรม ปี 65 ขอบคุณผู้ประกอบการ ร่วมใจสามัคคีฝ่าฟันอุปสรรคช่วงโควิด-19 ย้ำ หลังจากนี้ ร่วมมือเร่งฟื้นฟู ศก.- สร้างความแข็งแกร่ง วาดหวังอุตสาหกรรมไทยนำประเทศสู่รายได้ระดับสูง
วันนี้ (5 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2565 (The Prime Minister’s Industry Award 2022) โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม กล่าวรายงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขออนุญาตถอดหน้ากากอนามัยเพราะอยู่คนเดียวตรงนี้ จะได้เห็นหน้าเห็นตากัน วันนี้เป็นวันที่น่ายินดีอีกวันหนึ่งของนายกฯและพวกเราทุกคน ตลอดจนคนไทย เพราะทุกคนคือส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตตามกติกาต่างๆ ของโลก ขอชื่นชมกระทรวงอุตสาหกรรมที่จัดงานมาต่อเนื่อง แสดงว่า เราเห็นถึงความสำคัญต่อการยกระดับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไทย เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัฐบาลที่ต้องยกระดับพร้อมๆ การพัฒนาอุตสาหกรรมให้เกิดความสมดุล ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อนำประเทศและอุตสาหกรรมของเราก้าวสู่เวทีโลก ตนขอยินดีกับผู้ได้รับรางวัล เพราะถือเป็นความสำเร็จและภาคภูมิใจของคนที่ทำงาน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนา และต้องช่วยกันรักษาคุณภาพมาตรฐานให้ดีขึ้นต่อไปเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีและร่วมสร้างสรรค์พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า รัฐบาลตระหนักว่าภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและสร้างรายได้ให้ประเทศ แต่การเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยหลายอย่างและการเผชิญโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รัฐบาลพยายามอย่างยิ่งยวดในการแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันการแพร่ระบาดโควิดคลี่คลายไปในทางที่ดี สามารถปรับระดับเป็นโรคเฝ้าระวัง ตนขอขอบคุณ ชื่นชม ผู้ประกอบการทุกท่านที่มุ่งมั่นตั้งใจร่วมมือร่วมใจสามัคคีกันในการประกอบกิจการ จนสามารถฟันฝ่าอุปสรรคที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่งมาจนได้ในขณะนี้ หลังจากนี้ เราต้องร่วมมือกันเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมของไทย พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนให้มีความก้าวหน้าต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยเน้นโครงการหรือกิจกรรมที่ส่งผลประโยชน์ไปสู่ประชาชน ตลอดจนสร้างความเข้าใจกับนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจในการลงทุนและการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับการตอบสนองและร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนมา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมถือเป็นภาคเศรษฐกิจที่ทำรายได้ให้ประเทศมากที่สุด และการสั่งสมประสบการณ์ของผู้ประกอบการไทยทำให้ภาคอุตสาหกรรมไทยไม่เป็นรองใครในโลกใบนี้ และวันนี้ประเทศไทยได้รับการจับตามองจากต่างประเทศมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการพูดคุยกับผู้นำและผู้เยี่ยมเยียนระดับสูง เอกอัครราชทูต ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีความเข้มแข็ง ฉะนั้น โอกาสที่เรามีเข้ามาแล้ว โอกาสต่อไปจะมีการลงทุนต่างๆ ขอให้ติดตามในเรื่องเหล่านี้ สิ่งสำคัญต้องเร่งพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก
“สิ่งที่ผมวาดหวังไว้ คือ อุตสาหกรรมไทยต้องเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในการพัฒนาประเทศของเราสู่ประเทศรายได้ระดับสูงในเร็ววัน ซึ่งขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน เราพยายามอย่างยิ่งยวดจะทำให้ดีที่สุดมากที่สุด แต่ก็ขอให้เข้าใจว่าหลายอย่างมีกฎเกณฑ์มากมายที่ผมพยายามปรับแก้ให้สะดวกขึ้น ดีขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพวกเราต้องช่วยกันสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน เพื่อให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้าได้ เราจำเป็นต้องพลิกโฉมประเทศไทยให้ได้เร็วที่สุด นั่นคือ อนาคตของประเทศ เราอยู่เพื่อวันนี้ไม่ได้แล้ว เราต้องเตรียมการเพื่อวันหน้า เพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมา มีความรู้ความสามารถ และต้องมีหลักคิดที่ดีในการทำให้ประเทศเจริญเติบโตอย่างเข้มแข็ง เป็นการส่งมอบโลกใบใหม่ ประเทศไทยที่ดีงามให้กับเขาต่อไปในอนาคต และผมอยากให้พวกเรามองในอนาคตที่สู่ความยั่งยืนและมีเสถียรภาพของประเทศ ในสายตาของคนไทยและในสายตาของคนต่างประเทศด้วยความภาคภูมิใจไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ขอให้รักษารางวัลนี้ไว้ รางวัลเพิ่มได้ เพราะเป็นการสื่อสารให้เห็นว่าเราซาบซึ่ง ว่า มีน้ำใจต่อกัน ผมไม่ได้หวังประโยชน์อะไรจากท่าน แต่ผมหวังประโยชน์ของประเทศในการมีเม็ดเงินมาพัฒนาประเทศ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของพวกเรา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
