xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เคาะกำหนดฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ สร้างความมั่นใจผู้บริโภค-เพิ่มศักยภาพการผลิตการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ ยกระดับมาตรฐานการผลิตตั้งแต่ระดับฟาร์ม สร้างความมั่นใจปลอดภัยต่อผู้บริโภค ลดปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพิ่มศักยภาพการผลิตและการค้าสุกรของไทย

วันนี้ (5 ต.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตสุกรตั้งแต่ระดับฟาร์ม สร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค สามารถป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่สำคัญในสุกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์สุกรของประเทศไทย

สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับดังกล่าว มีสาระสำคัญดังนี้ คือ กำหนดแนวทางปฏิบัติที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรให้แก่ผู้ประกอบการที่เลี้ยงสุกรขุนตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ ตั้งแต่ 95 ตัวขึ้นไป เช่น สถานที่ตั้งของฟาร์มต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีเส้นทางคมนาคมที่สามารถขนส่งสุกร อาหารสัตว์ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวก ไม่อยู่ในบริเวณที่เกิดน้ำท่วมขังได้ มีแหล่งน้ำที่สะอาดและใช้ได้เพียงพอ มีพื้นที่ขนาดเพียงพอและเหมาะสมไม่หนาแน่นจนก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสวัสดิภาพสัตว์ มีคู่มือการจัดการฟาร์มที่แสดงให้เห็นรายละเอียดการปฏิบัติงานที่สำคัญภายในฟาร์ม

ทั้งนี้ ได้กำหนดวันใช้บังคับตามขนาดและประเภทของฟาร์มสุกรดังนี้ ฟาร์มที่เลี้ยงสุกรขุนตั้งแต่ 500-1,499 ตัว หรือ เลี้ยงสุกรแม่พันธุ์ตั้งแต่ 95-119 ตัว ซึ่งจัดเป็นฟาร์มขนาดกลาง ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ส่วนฟาร์มที่เลี้ยงสุกรขุนตั้งแต่ 1,500 ขึ้นไป หรือเลี้ยงแม่พันธุ์สุกรตั้งแต่ 120 ตัวขึ้นไป จัดเป็นฟาร์มขนาดใหญ่ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยกฎกระทรวงฉบับนี้ไม่ใช้บังคับสำหรับฟาร์มสุกรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงระบบปศุสัตว์อินทรีย์และหมูหลุมที่รับรองโดยกรมปศุสัตว์

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การกำหนดให้มาตรฐานสินค้าเกษตรใดเป็นมาตรฐานบังคับจะส่งผลให้ผู้ที่จะผลิต ส่งออก หรือนำเข้าสินค้าเกษตรนั้นได้ ต้องเป็นผู้ที่ได้รับในอนุญาตเป็นผู้ผลิตผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรนั้นก่อน รวมทั้งต้องมีใบรับรองตามมาตรฐานบังคับจากผู้ประกอบการตรวตสอบมาตรฐาน โดยหากไม่ปฏิบัติตามจะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ปรับไม่เกิน 300,000 บาท ในกรณีเป็นผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรที่เป็นมาตรฐานบังคับโดยไม่มีใบอนุญาต หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท ในกรณีที่ผู้ผลิต ผู้ส่งออก หรือผู้นำเข้าสินค้าเกษตรที่เป็นมาตรฐานบังคับไม่มีใบรับรองมาตรฐาน

ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า ปัจจุบันมีผู้เลี้ยงสุกรมากกว่า 160,000 ราย ทั่วทุกภูมิภาคของไทย มีทั้งที่เลี้ยงไว้เพื่อการบริโภคและการพาณิชย์ ซึ่งผู้ประกอบการที่เลี้ยงสุกรในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่มีความเข้าใจและมีความพร้อมในการดำเนินการตามมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) จึงได้จัดทำร่างมาตรฐานสินค้าเกษตร เรื่อง การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรขึ้น และได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียก่อนออกกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานบังคับดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น