“พิชาย” ชี้ เป็นไปได้เลือกตั้งสมัยหน้า “เพื่อไทย” ผสม “พปชร.” ดัน “บิ๊กป้อม” นั่งนายกฯ ชั่วคราว ส่วน “บิ๊กตู่” หลุดสมการ เหตุคะแนนนิยมตกต่ำหนัก เชื่อ “ประยุทธ์” ยังไม่ยอมวางมือทางการเมือง เพราะมีเจตจำนงเข้าสู่อำนาจแรงกล้ามาก
วันที่ 3 ต.ค. 2565 รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผอ.หลักสูตรปริญญาเอก สาขาการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา นิด้า ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน”
โดย รศ.ดร.พิชาย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ ต่อไปหลังเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่ จะมีความยากลำบากกว่าในอดีต เพราะคะแนนนิยมตกต่ำลงอย่างมาก พลังประชารัฐได้เสียงไม่มากเท่าอดีต อาจกลายมาเป็นพรรคขนาดกลางได้สัก 60-70 เสียง การมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดต ไม่ได้ทำให้ได้จำนวน ส.ส. เพิ่ม
พรรคที่ได้ที่นั่งสูงสุดน่าจะเป็นเพื่อไทย คาดว่า ได้ 200-250 ที่นั่ง และเพื่อไทยชัดเจนว่าไม่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล อย่างมากก็ได้คะแนนเท่าเดิม แย่กว่านั้นก็ได้น้อยกว่าเดิม เสียงใน ส.ส. ก็จะได้ไม่ถึงครึ่ง การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าไม่เอาฝ่ายค้านปัจจุบันเข้าผสม แม้มีเสียง ส.ว. สนับสนุนก็ตาม สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยอาศัยเสียง ส.ว. แต่ก็ไปไม่รอด พอแถลงนโยบายในรัฐสภานัดแรกรัฐบาลก็ล่มแล้ว ฉะนั้น การสร้างพันธมิตรข้ามฝ่ายเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจต่อไป ก็เป็นทางเลือกอันหนึ่งของ 3 ป. แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่อยู่ในสมการ เพราะฝ่ายค้านไม่ยอมรับ ท่าทีของฝ่ายค้านมีไมตรีต่อ พล.อ.ประวิตร มากกว่า ดูได้จากเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร ก็จะเบาๆ แตะๆ อาจเป็นสัญญาณว่ามีการพูดคุยกันมานานแล้ว
ฉะนั้น การเลือกตั้งครั้งหน้า หากมีความจำเป็นภายใต้สถานการณ์จำนวนที่นั่ง ส.ส. ที่จะก่อตัวเป็นรัฐบาลได้ ก็อาจมีการผสมข้ามฝ่าย ระหว่างเพื่อไทย กับพลังประชารัฐ ใครจะเป็นนายกฯ ก็ขึ้นกับการต่อรอง มีความเป็นไปได้ เพื่อไทยให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ สักพัก ครบ 5 ปี เลือก ส.ว. ใหม่ ถ้า พล.อ.ประวิตร ไปได้ ไม่สร้างความขัดแย้ง ก็ดำรงตำแหน่งนายกฯไปเรื่อยๆ ก็ได้ แต่ถ้าไปไม่ได้ เพื่อไทยก็มีคนของเขาเองเข้ามาสวมแทน
รศ.ดร.พิชาย กล่าวอีกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่สามารถฟันธงได้เสียทีเดียว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ มีเจตจำนงการเข้าสู่อำนาจแรงกล้ามาก จะถอยง่ายๆ คงเกิดขึ้นยาก ในช่วงนี้คงคาดว่าวางแผนสร้างเกมการเมืองที่ทำให้ตัวเองสามารถอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป จนได้ครบวาระกำหนดปี 68 ประเภทยอมแพ้ง่ายๆ ยอมถอยคงไม่เกิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกจากแวดวงการเมือง หรือvอกจากอำนาจได้ มีทางเดียวคือไม่มีทางไปได้แล้ว แม้มีรูเล็กๆ เขาก็ยังไป
รศ.ดร.พิชาย กล่าวต่ออีกว่า อนาคต พล.อ.ประยุทธ์ ริบหรี่ พรรคเล็กเอาออกจากสมการได้เลย เพราะต้องได้เสียงอย่างต่ำ 3.5 แสน ยากมากที่จะได้ เสียงก็จะอยู่ในพรรคหลักๆ
นั่นคือ ทางเลือกที่ดี คือ จบชีวิตการเมืองแบบสวยๆ ไม่ต้องบอบช้ำในการเลือกตั้งสมัยหน้าอีก แต่ลงจากหลังเสือก็มีหลายคดีที่ฝ่ายค้านไปร้อง ป.ป.ช. อาจถูกเล่นงานภายหลัง
