รองโฆษกรัฐบาล เผย ประชาสัมพันธ์เชิงรุก พาสื่อต่างประเทศลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อเผยแพร่โปรโมต Soft Power และชุมชนพหุวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยว
วันนี้ (22 ก.ย.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำคณะสื่อมวลชนชั้นนำจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และตัวแทนสื่อจากสำนักข่าว Bernama มาเลเซีย ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2565 ภายใต้กิจกรรมนำสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่ และในระยะต่อไปจะเป็นสื่อจากประเทศอื่นในภูมิภาคต่างๆ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักโฆษก และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์ Soft Power ของพื้นที่ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องในด้านต่างๆ
ซึ่งรัฐบาลได้กำหนดให้การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสร้างความสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นนโยบายเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนชายแดนใต้ อยู่ดี กินดี พื้นที่มีความสงบร่มเย็นภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่หลากหลาย นอกจากนี้ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังมีศักยภาพสูงในด้านการท่องเที่ยวทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ มีความหลากหลายทางชีวภาพ วิถีชีวิต วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ครอบคลุมพื้นที่ชุมชนเมือง ผืนป่า และทะเล ซึ่งจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ประชาชนและชุมชนท้องถิ่นได้อย่างยั่งยืน
โดยในวันนี้ คณะสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นติดตามการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยว ณ ชุมชน 3 วัฒนธรรม ไทยพุทธ-จีน-มุสลิม นราธิวาส ซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาศักยภาพของคนในพื้นที่ด้วย
นางสาวรัชดา กล่าวว่า จังหวัดชายแดนใต้ มีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นถิ่น มีความโดดเด่นทางประวัติศาสตร์ ศาสนสถาน และสถาปัตยกรรมต่างๆ มีภาษา วัฒนธรรมผ้า ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านและอาหารที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติอย่างกลมกลืนลงตัวในความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม อันเป็นอัตลักษณ์ที่สำคัญและมีคุณค่ามาก เป็น Soft Power ที่รัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริม อนุรักษ์ และสืบสาน และต้องการเผยแพร่ให้ต่างชาติได้รับรู้และอยากมาเยือน โดยในครั้งถัดไป จะได้นำคณะสื่อมวลชนจากภูมิภาคอื่นๆ ร่วมคณะเดินทางมาเพื่อสัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตและสังคมความเป็นพหุวัฒนธรรมของจังหวัดชายแดนใต้อีก