xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” บรรยาย “90 ปี รัฐสภาไทย” ชี้ กระบวนการประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลาน หลายวิกฤตเกิดจากพฤติกรรมคนใช้ รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชวน” บรรยาย “90 ปี รัฐสภาไทย” ชี้ กระบวนการประชาธิปไตยล้มลุกคลุกคลาน หลายวิกฤตเกิดจากพฤติกรรมคนใช้ รธน. ยกนโยบายเก็บฆ่าทิ้งทำเกิดวิกฤตภาคใต้ยาวนานจนวันนี้ เหตุ ผู้บริหารประเทศใช้หลักนอก กม. ระบุ 90 ปี วินัยไทยยังไม่ดีเท่าที่ควร ห่วง ธุรกิจการเมืองเป็นที่มาการทุจริตโกงกิน

วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการเสวนาวิชาการเนื่องในโอกาสครบรอบ 90 ปี รัฐสภาไทย โดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “90 ปี รัฐสภาไทย การเดินทางและความหวัง” ความตอนหนึ่งว่า กระบวนการประชาธิปไตยไม่ได้ราบรื่น พูดได้เต็มปากว่าล้มลุกคลุกคลาน มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เพราะบางสมัยระบบนิติบัญญัติมาจากการเลือกตั้ง บางสมัยมาจากการแต่งตั้ง ในส่วนของระบบการเลือกตั้งมีความเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ช่วงแรกเป็นระบบรวมเขต แต่ในภาพความเป็นจริงเป็นเรื่องยากที่ในจังหวัดใหญ่จะมีเขตเดียว ต่อมาในปี 2518 เป็นจุดเริ่มต้นของระบบเลือกตั้งแบบแบ่งเขต โดยกำหนดเขตละไม่เกิน 3 คน ถือเป็นความก้าวหน้าชัดเจน ระบบนี้ใช้ในรัฐธรรมนูญฉบับหลังๆเรื่อยมา และเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในปี 2540 ที่มี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ต่อมาปี 2562 ก็เปลี่ยนแปลงเรื่องการคิดคะแนน

“ทูตเยอรมนีมาคุยเรื่องระบบเลือกตั้งกับผม บอกว่าที่ไทยใช้อยู่ขณะนี้ เยอรมนีเคยใช้ แล้วมีปัญหา จึงกลับไปใช้แบบที่ไทยได้ยกเลิกไป” ประธานรัฐสภา กล่าว

ประธานรัฐสภา กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 2540 ที่เราคิดว่าดีในที่สุดก็มีปัญหา เพราะการเมืองเข้าไปแทรกแซง ดังนั้น บางเรื่องจึงไม่ได้เกี่ยวกับตัวกฎหมาย อย่ามองเรื่องข้อบกพร่องรัฐธรรมนูญทั้งหมด แต่สำคัญคือ พฤติกรรมของคนใช้รัฐธรรมนูญ หลายครั้งที่เกิดวิกฤติมาจากพฤติกรรมของตัวบุคคล กฎหมายที่ดีจึงมีความจำเป็น เพื่อกำหนดโครงสร้างบทบาทแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจน แต่ต้องประกอบไปด้วยผู้ใช้ที่ดีด้วย ตัวอย่างรัฐธรรมนูญ 2540 ที่เกิดวิกฤติจนถึงทุกวันนี้ คือการที่ผู้บริหารใช้วิธีการบริหารด้วยการเลือกปฏิบัติ และใช้วิธีการนอกหลักนิติธรรม ตัวอย่างที่ดีที่สุดคือ ปัญหาภาคใต้ที่ยังเกิดปัญหาจนทุกวันนี้ เกิดจากความผิดพลาดของบุคคลที่มาจากระบบการเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย แต่ไม่ยึดหลักประชาธิปไตยในการบริหาร ไปใช้หลักนอกนิติธรรม นั่นคือนโยบายวันที่ 8 เม.ย. 2544 คือ วันที่เริ่มนโยบายเกิดวิกฤติในภาคใต้ เป็นนโยบายเก็บฆ่าทิ้ง สันนิษฐานว่าพื้นที่ภาคใต้มีขจก.ไม่เกิน 40-50 คน บอกว่า เป็นพวกโจรกระจอกแล้วจัดการเสีย ตนถือว่าเป็นเหตุการณ์วิกฤติใน 90 ปี ที่เราไม่เคยสูญเสียขนาดนี้ เฉลี่ยผู้เสียชีวิตต่อเนื่องจากเหตุการณ์จนถึงวันนี้ไม่น้อยกว่า 5-6 พันคน ทั้งที่ปัญหาในพื้นที่มีการแก้ไขเยียวต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่สมัย ร.5-ร.6 แต่พอนโยบายนี้ออกมาว่าจะแก้ปัญหาหมดใน 3 เดือน ด้วยวิธีเก็บฆ่าทิ้งเดือนละ 20 คน จึงเป็นเงื่อนไขที่มาของทุกวันนี้ ทำให้ทุกวันนี้รัฐบาลต้องใช้เงินเป็นแสนล้านบาทในการแก้ปัญหาซึ่งปัญหายังไม่จบ
“วิกฤติรุนแรงที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงประเทศมีไม่มาก นอกจากเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องอื่นเราก็สามารถแก้ปัญหากันได้ ความมั่นคงในระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีกระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงมาจนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งเพราะคนไทยมีความผูกพันกับสถาบัน และรับไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปแบบอื่น” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเปิดโอกาสให้คนทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ให้ได้รับโอกาส นี่คือสิ่งที่พูดได้ว่า 90 ปี ของบ้านเมืองเราหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเปิดกว้างมาก แต่การเปิดกว้างก็ไม่ได้มีจุดบวกทั้งหมด ความเหลื่อมล้ำก็มาจากการเปิดกว้าง คนมือยาวสาวได้สาวเอา คนมือสั้นสาวได้ไม่มาก คนมือยาวรวยติดอันดับ แต่คนรวยก็ต้องระวัง ถ้าทำหลุมศพใช้เนื้อที่ 2 3 ร้อยไร่ แต่ถ้าอยู่อย่างรู้จักประมาณ รวยก็รวยไป แต่อย่าไปแสดงให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากเกินไปก็จะอยู่ได้ แต่ถ้ามากเกินไปก็ตำตาคนจะรับไม่ได้ เรื่องนี้เป็นโจทย์ที่ต้องทบทวน ว่าทำอย่างไรให้เกิดการควบคุมการฉวยโอกาสที่เกินไป

ประธานรัฐสภา กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองน่าเป็นห่วง อดีตความรุนแรงมีอยู่บ้าง แต่ไม่มีการซื้อเสียง อย่างดีคือเลี้ยงเหล้า แต่ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องเลี้ยงเหล้าแล้ว เป็นเรื่องธุรกิจการเมือง คำว่าเสียงสามร้อย ห้าร้อย แปดร้อย สมัยก่อนไม่มี นี่คือสิ่งที่น่าเป็นห่วงในการเมืองเช่นนี้ ซึ่งต้องเอาทุนคืน เป็นที่มาของการทุจริตโกงกิน สภาจึงไม่นิ่งดูดายเป็นที่มาของโครงการ “บ้านเมืองสุจริต” โดยเน้นย้ำ รณรงค์เรื่องความสุจริตให้เด็กฟัง

นายชวน กล่าวว่า 90 ปี วินัยของเรายังไม่ดีเท่าที่ควรก่อให้เกิดปัญหาร้อยแปด เราต้องให้ความสำคัญเรื่องวินัย เพราะคุณภาพคนเป็นสิ่งสำคัญ เป็นโจทย์สำคัญที่จะทำให้ประเทศพัฒนาไปในวันข้างหน้า ทั้งนี้ ช่วงที่เกิดวิกฤตต่อตำแหน่งรัฐมนตรี นักการเมือง มากที่สุดคือช่วงตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ไม่มียุคใดที่มีรัฐมนตรีติดคุกมากเท่าช่วงนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความเชื่อเรื่องการหาผลประโยชน์ และความไม่เชื่อเรื่องหลักนิติธรรม การปกครองด้วยหลักคุณธรรม ถือเป็นบทเรียนสำคัญมาก เราต้องไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้มาทำลายสถิติ 100 ปีข้างหน้า อย่ามาทำลายสถิติคนติดคุก นี่คือ วิกฤตของบ้านเมืองอันเกิดมาจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต
กำลังโหลดความคิดเห็น