การที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไป กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อ เข้าร่วมงานประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 170 (BIE 170th General Assembly) มีจุดประสงค์ เพื่อนำเสนอความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Specialised Expo 2028 – Phuket, Thailand ภายใต้หัวข้อ Future of Life : Living in Harmon เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยมากมายขนาดไหน
.
ทำไม “อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องเป็นหัวหน้าทีมไปเสนอตัวเป็นเจ้าภาพด้วยตนเอง ... เพราะเห็นความสำคัญ ว่าประเทศไทย ต้องแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขันอีก 4 ประเทศ นั่นคือ ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศเซอร์เบีย และประเทศสเปน ดังนั้นจึงต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อจะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุม 171 ประเทศเกิดความมั่นใน ว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการจัดประชุม Specialised Expo 2028 ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นอย่างมาก ถึงขั้น “รองนายกรัฐมนตรี” และ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” เดินทางมายืนยันถึงความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมในครั้งนี้ ด้วยตัวเอง
.
ทำไม “อนุทิน ชาญวีรกูล” ถึงต้องการให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพงานประชุมระดับโลก Specialised Expo 2028 มาจัดที่ ภูเก็ต ประเทศไทย ... เพราะมีความต้องการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในสายตาชาวโลก ในระบบสาธารณสุขไทย มีความก้าวหน้าถึงขีดสุด
.
1.ประเทศไทยได้รับการยอมรับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ติด 1 ใน 5 ของโลก มูลค่าตลาดของ Wellness Tourism ของไทยมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2.มีโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน Joint Commission International (JCI) เป็นอันดับ 4 ของโลก และมากที่สุดในอาเซียน
3.มีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญทุกด้าน รวมถึงการบริการที่รวดเร็ว และราคาสมเหตุสมผล
4.ล่าสุด ประเทศไทยเพิ่งได้รับเลือกจากชาติอาเซียน ในการตั้งสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียน ด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ( ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED)
และ 5.ประเทศไทยไทยมีศูนย์อาเซียนเพื่อผู้สูงอายุอย่างมีศักยภาพและนวัตกรรม (ASEAN Centre for Active Aging and Innovation : ACAI)
.
ที่สำคัญไปกว่านั้น “อนุทิน ชาญวีรกูล” มองเห็นถึงการจัดเวทีประชุมระดับนานาชาติ นี้ จะเป็นโอกาสอันดีในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และคนไทยทั้งประเทศจะได้อานิสงค์ไปด้วย เพราะคาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่พื้นที่ต่าง ๆ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาส
.
อย่างไรก็ตาม หากจะมองมาถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ ที่มีความพยายามสร้างกระแสต่าง ๆ เข้าไปกดดัน “อนุทิน ชาญวีรกูล” หวังทำให้เสียสมาธิ กับวิวาทะ “ไล่หนู ตีงูเห่า” แต่กลับไม่ได้ สร้างความหวาดหวั่น ทางการเมืองใด ๆ ดีที่อนุทิน ไม่เสียสมาธิ และ ไม่สู้รบปรบมือด้วย แต่ใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พร้อมยกประโยคเด็ด “ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน” แค่นั้น จากนั้นไปทำงานตามปกติ ซึ่งจริงๆ แล้ว บทบาทของฝ่ายค้าน ควรจะช่วยกันสนับสนุน ไม่ใช่ใช้วาทกรรมทางการเมือง โจมตี ดิสเครดิตทางการเมือง โดยไม่สนใจการพัฒนาบ้านเมือง
.
ส่วนวิวาทะ ฝ่ายหนุน ฝ่ายต้าน การปลดล็อกกัญชา กัญชง เป็นเรื่องปกติที่ต้องเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ปลูกฝัง สร้างความเชื่อ กันมายาวนานกว่า 40 ปีในสังคมไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” เข้าใจดี เปิดให้มีการถกเถียง เสนอแนะกันเต็มที่ แล้วไป ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข มารับมือ รับสถานการณ์ ทุกข้อห่วงใย ได้อย่างนุ่มนวล โดยเฉพาะการห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้กัญชา ทำการออกประกาศได้อย่างรวดเร็ว สังคมคลายความกังวลของฝ่ายต้าน ไปได้มาก
.
จะเห็นได้ว่า ผลที่จะได้จากการไปเสนอตัวจัดงานประชุมด้านสุขภาพในครั้งนี้ ประเทศไทย จะได้ประโยชน์มากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรม การท่องเที่ยว ยังจะส่งผลดีใน
1.ผลักดันบทบาทของประเทศไทยและภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ(Medical Hub) ให้เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
2.เป็นเวทีแลกเปลี่ยนนวัตกรรมการให้บริการสาธารณสุขในอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโลกในบริบทหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
3.หากไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ คาดว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าร่วมงาน 4,930,000 คน เป็นชาวไทย ร้อยละ 54 และต่างชาติ ร้อยละ 46 สร้างเงินสะพัด 49,231 ล้านบาท ผลักดันการเติบโตของจีดีพีได้ 39,357 ล้านบาท เกิดรายรับภาษีภาครัฐ 9,512 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 113,439 คน
.
ความพยายามดั้นด้น เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล ไปช่วงชิงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับโลก Specialised Expo 2028 – Phuket, Thailand ด้วยความมีสมาธิ มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง ไม่วอกแวกทางการเมืองใด ๆ นั่นย่อมเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเติบโต และความพร้อมของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่พร้อมจะนำประเทศไทยกลับไปยืนบนเวทีโลก หลังยุคโควิด-19 ระบาด นำกิจกรรมระดับโลก เข้ามาเสริมความแกร่งให้ชีวิตประชาชนชาวไทย ทำมา ค้าขาย กลับมาเป็นปกติ เหมือนเดิม