“มงคลกิตติ์” ย้ำ ถอนตัวคดีแตงโม 100% ปล่อยกระบวนยุติธรรมเดินหน้าต่อ เผย กมธ.ป.ป.ช.ยังไม่ได้เรียกแจง หลัง “ทนายเดชา” ยื่นสอบจริยธรรม ชี้ เทปบันทึกเสียงใช้เป็นหลักฐานไม่ได้ มองทะเลาะข่มขู่เป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ได้ปฏิบัติ
เมื่อเวลา 10.25 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ แถลงยืนยันว่า ได้ถอนตัวจากการทำคดีของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม 100% ซึ่งการตัดสินใจถอนตัว ทำให้ตนคลายความกังวล เพราะจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และเป็นการปลดสนุ๊ก เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมเคลื่อนต่อไปได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ยื่นสอบจริยธรรม ขณะนี้มีความคืบหน้าอย่างไร นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรื่องที่ทนายเดชาร้องจริยธรรมตน ถ้ามีมูลเหตุ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน กมธ. จะต้องส่งไปที่คณะกรรมการจริยธรรม ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากคณะ กมธ.ป.ป.ช. เนื่องจากต้องสืบโจทก์ให้สิ้นกระแสความก่อน ว่า ตนกระทำผิดขณะปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ มีการแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ถ้าสรุปแล้วไม่มีการแทรกแซงก็จบ
ส่วนการนำพยานหลักฐานในส่วนการอัดเทปบันทึกการสนทนา ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการเรื่องทุจริตสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ตามกฎหมายเคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วว่า ไม่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวน ศาล และ กมธ.ป.ป.ช. ด้วย ดังนั้น คณะ กมธ. ต้องดูว่าหลักฐานนี้ได้มาโดยสุจริตหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเอกชนคุยกับเอกชน โดยที่ไม่ใช่เรื่องอำนาจหน้าที่ก็จะไม่สามารถดำเนินการต่อได้
“การทะเลาะเบาะแว้งกันในสภา ยกตัวอย่างตอนที่ พล.อ.เสรีพิศุทธ์ อภิปรายกับนายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องปืนก็คล้ายกัน คือ เรื่องของคำพูด แต่ไม่ได้ปฏิบัติ การที่ ส.ส.ขัดแย้งกันก็มีมาตลอดเป็นเรื่องปกติ เป็นแค่คำพูดไม่สุภาพ การข่มขู่ด้วยคำพูด ก็มีเพียงโทษปรับ และจำคุก ซึ่งเป็นคดีลหุโทษ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว