xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ชื่นชม “กิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” ตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชม “กิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” ตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เชื่อมั่นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สร้างโอกาสและรายได้ให้ชุมชน


วันนี้ (17 มิ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชื่นชมการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการจัด “กิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” ตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พร้อมทั้งมีความเชื่อมั่นว่า กองทุนหมู่บ้านฯจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพประเทศในอนาคต

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2565 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด “โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน” ซึ่งจัดโดยสํานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีช่องทางในการเผยแพร่ผลงาน สนับสนุนการสร้างโครงข่ายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และถ่ายทอดบทเรียนผ่านสื่อต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ (KNOW HOW) เพื่อต่อยอดการบริหารจัดการหมู่บ้านและชุมชน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การเผยแพร่บทเรียนจากโครงการและการสร้างแนวทางความร่วมมือระหว่างกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และภาคีที่เกี่ยวข้อง ในการพัฒนาต่อยอดโครงการให้เกิดความเข้มแข็ง โดยนำร่องพื้นที่ภาคกลางเป็นพื้นที่แรก และจะต่อยอดจัดในหลายพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศไทย

ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง คือ การให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการช่วยแก้ปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาศักยภาพของชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจัดตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง กองทุนหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน พัฒนาอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้ชุมชน และส่งเจ้าหน้าที่ไปฝึกอบรมความรู้ให้กับประชาชนในหมู่บ้านเพื่อให้เข้าใจการบริหารการจัดการกับกองทุน และเสริมสร้างการพึ่งพาตนเองด้วยภูมิปัญญาของหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากของประเทศ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศจำนวน 79,610 กองทุน เงินทุนหมุนเวียนกว่า 3 แสนล้านบาท จํานวนสมาชิกประมาณ 13 ล้านคน และมีผลงานซึ่งเป็นรูปธรรม อาทิ ร้านค้าประชารัฐ ตลาดประชารัฐ สินค้าจากผลิตผลและผลิตภัณฑ์ของกองทุนหมู่บ้าน แหล่งท่องเที่ยวชุมชน สถาบันการเรียนรู้ สถาบันการเงินชุมชน

“นายกรัฐมนตรีเล็งเห็นถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศในทุกระดับจากวิกฤตสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้เร่งดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนในชุมชน โดยให้การสนับสนุนและส่งเสริมการประกอบกิจการชุมชนผ่านกองทุนหมู่บ้านทุกรูปแบบ เพื่อมุ่งเสริมความมั่นคงของเศรษฐกิจฐานราก พร้อมได้กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ส่งเสริมการนำอัตลักษณ์มาพัฒนาความเป็นอยู่ในท้องถิ่น เพื่อให้คนในชุมชนมีอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน และให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยความสามัคคี ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติที่ได้ตั้งไว้” นายธนกร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น