วันนี้ (17 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายมหัศจักร โสดี โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความว่า เมื่อผมกลายเป็นผู้ต้องหาในความผิด 112 โดยเนื้อหาระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ให้ผมไปพบ “คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน” เนื่องจากผมเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์” ว่า พฤติกรรมของนายปิยบุตร ไม่ต่างจากศรีธนญชัย เดินหน้าสู่อีแอบ และเป็นผู้ต้องหาในที่สุด สมใจนึกบางลำภู
นายมหัศจักร กล่าวต่อว่า ตนขอให้นายปิยบุตรแสดงความกล้าหาญ ตามอุดมการณ์ของตัวเองที่กล่าวอ้างมาตลอดอย่างเต็มที่ แม้จะมีคำถามว่า เป็นความกล้าหาญที่เกิดจากจิตใจที่แท้จริง หรือการจนมุมก็ตาม และก็ต้องขอแสดงความดีใจกับเหล่าสาวกสามกีบที่จะได้เห็นนายปิยบุตรคนนี้ ซึ่งหลบอยู่ใต้กระโปรงของเยาวชนมาตั้งนาน ได้ออกมานำทัพเคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าสาวกเสียที
“นายปิยบุตรใช้ความเป็นนักกฎหมาย ความรู้ทางกฎหมาย อ้างความเป็นนักวิชาการ อ้างความคิดเห็นทางวิชาการ อ้างประวัติศาสตร์ของประเทศฝรั่งเศสบ้าง แล้วนำมากระทบกระเทียบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจของตัวเองดีว่ามีเจตนาอะไร วันนี้ สังคมรู้โดยทั่วไปว่า กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนา คนไทยส่วนใหญ่ของประเทศเขาก็คงจะดีใจ และฝากบอกนายปิยบุตรว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถึงเวลาหยุดตำนานศรีธนญชัยและอีแอบเสียที”