เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เตรียมรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 จันทร์นี้ (20 มิ.ย.) ระบุ เพิ่งโดนครั้งแรกหลังเจอคดีอื่น อ้างไม่เคยหมิ่นประมาทสถาบันฯ แค่แสดงความเห็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์เฉยๆ หยันบรรดานักร้อง ให้หยุดพูดไม่ได้หรอก ขู่สังคมไทยถึงทางตันแน่
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ภาพหมายเรียกของสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ลงวันที่ 1 มิ.ย. ในคดีที่นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ โดยให้ไปพบกับพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ในวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 13.30 น.
นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนได้หมายเรียกให้ไปพบคณะพนักงานสอบสวนในวันที่ 12 มิ.ย. แต่เนื่องจากตนและทนายความติดภารกิจ จึงขอเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่ 20 มิ.ย. เวลา 10.00 น. และระบุว่า ตนนำเสนอความเห็นทางวิชาการ เขียน อภิปราย เกี่ยวกับประเด็นการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ และเสนอให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ทั้งในระดับรัฐธรรมนูญและระดับพระราชบัญญัติมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัยยังเป็นอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนกระทั่งเข้าสู่แวดวงการเมือง
"ตลอดเวลามากกว่า 10 ปี จนถึงปัจจุบัน ไม่มีการแสดงความเห็น การเขียน การพูดของผมครั้งใดที่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อย่างแน่นอน ผมแสดงความเห็นในเรื่องเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ก็ด้วยจิตสำนึกและเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ แก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ให้สอดคล้องกับประชาธิปไตย เพื่อรักษาประชาธิปไตย และรักษาสถาบันกษัตริย์ให้ดำรงอยู่รอดปลอดภัยภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปกำลังเผชิญกับความท้าทายของยุคสมัย ไม่มีความเห็นใดของผมที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ไม่มีความเห็นใดของผมที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ มีแต่ความเห็นที่ปรารถนาดีต่อสังคมไทย ต้องการให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ทำให้ทุกคนทุกรุ่นทุกวัย ทุกความคิดเห็นที่แตกต่างกัน สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ โดยยังคงรักษาสถาบันกษัตริย์ไว้ได้ต่อไป" นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า ตลอดชีวิตไม่เคยเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา กระทั่งเข้าสู่แวดวงการเมือง ก่อตั้งพรรคการเมือง จึงได้เป็นผู้ต้องหาครั้งแรกในคดีดูหมิ่นศาล ความผิดอาญาทางคอมพิวเตอร์ และเป็นจำเลยครั้งแรกในคดีความผิดตาม พ.ร.บ. การชุมนุมสาธารณะ และความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ส่วนมาตรา 112 เป็นครั้งแรกที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ กลายเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานนี้
"ไม่ต้องคิดอย่างสลับซับซ้อนก็คงตอบได้ว่า สถานะผู้ต้องหาและจำเลยในคดีเหล่านี้ ผมได้มาก็เพราะสัมพันธ์กับบทบาททางการเมือง บรรดานักร้อง ไฮเปอร์รอยัลลิสต์ อัลตร้ารอยัลลิสต์ ฟ้องผมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เพราะต้องการหยุดไม่ให้ผมพูด แต่หยุดผมไม่ได้หรอกครับ ผมจะเดินหน้าแสดงความเห็นทางวิชาการ รณรงค์ข้อเสนอต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบ้นกษัตริย์ต่อไป เพื่อพิสูจน์ว่าความเห็นและข้อเสนอแบบผมต่างหากที่จะช่วยรักษาสถาบันกษัตริย์ให้อยู่รอดปลอดภัยในยุคปัจจุบัน พฤติกรรมของพวกเขาต่างหากที่จะผลักดันสังคมไทยไปถึงทางตัน และไม่เป็นคุณต่อสถาบันกษัตริย์" นายปิยบุตร กล่าว