นายกฯ เปิดงาน Thailand 5G Summit 2022 ยอมรับทำงานอาจไม่ถูกใจคนทั้งประเทศ แต่ต้องถูกต้อง เหตุโลกเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว บ่นทำงานจนเบลอ หากตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์ ป่านนี้เครื่องแฮงก์ไปแล้ว เพราะรับปัญหาไว้เยอะ บอกสื่อรอจ้องอารมณ์ทุกเช้า
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. ที่ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการ Thailand 5G Summit 2022 : “The Real 5G Leader of The Region” จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และ Global System for Mobile Communications Association (GSMA) APAC 5G Industry Community
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ The 5G Leader in the Region ตอนหนึ่งว่า มีคำกล่าวที่ว่าอดีตคือปัจจุบัน และปัจจุบันคือการทำอนาคตด้วย วันนี้เราจึงวางอนคตให้ลูกหลานเราในการใช้ประโยชน์จากเครือข่าย 5G และเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเราเตรียมการมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ในการเดินมาถึงวันนี้ ช่วงต่อจากนี้ก็เป็นการที่จะต่อ ขยาย เพิ่มเติม และให้ประโยชน์เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ปัจจุบันยอดผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศเรามหาศาล เราต้องสร้างการเรียนรู้ การใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด จากเทคโนโลยีเหล่านี้ในเชิงสร้างสรรค์ ฉะนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันจึงเป็นส่วนสำคัญ มีอะไรที่เราทำออกไปแล้วไม่ได้รับการสืบต่อ ไปพูดต่อ มันก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยของเราก้าวนำด้านโครงสร้างโทรคมนาคมพื้นฐานในระดับภูมิภาค ส่งเสริม สนับสนุนการใช้งาน และการต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมดิจิตัลด้วยโครงข่ายเทคโนโลยี 5G เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของเราให้แข็งแกร่ง ยั่งยืน ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่ออย่างที่เราไม่เคยมีมาก่อน จะเห็นว่า ทุกวันปุ๊บปั๊บแป๊บเดียวข่าวของเราไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เราควบคุมไม่ได้เลย เพราะมันเร็วจากการเชื่อมต่อ ข้อมูลจึงส่งได้ครบถ้วน ทั้งภาพ เสียง หลายช่องทาง ฝากไว่ว่าให้นำไปใช้ในการช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆมากขึ้นเพื่อช่วยภาคธุรกิจในประเทศฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ได้เร็วขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราเจอปัญหาถึง 3 เด้ง เด้งแรก คือ มาตรการกีดกันทางการค้า สอง คือ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และเด้งที่สาม คือ ผลกระทบของจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่สิ่งที่โชคดี คือ ปัญหาภัยแล้งของประเทศ ปีนี้ควบคุมได้ดีจึงสามารถที่จะนำงบประมาณที่จะไปแก้ส่วนดังกล่าว มาช่วยบ้านเมืองได้ และสิ่งสำคัญของการใช้ 5G คือ นำมาใช้กับระบบสาธารณสุข
“ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้แค่ 5-6 บรรทัด แต่กิจกรรมมันเพียบ ไม่ไช่พูด 5 บรรทัดแล้วจบ กว่าจะมาตรงนี้ได้ กว่าจะสรุปตรงนี้ได้ ทำไส้ในมาทั้งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นมันเกิดไม่ได้ ที่ผมจำเป็นต้องพูดเพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นสิ่งที่ตน และรัฐบาลคิดมาอย่าต่อเนื่องโดยตลอด เมื่อโลกเปลี่ยน เราต้องปรับอาจจะปรับไม่มากนัก เราแค่ปรับตัวของเรา ปรับการทำงาน ปรับความเข้าใจ มันก็เดินหน้าไปได้ด้วยดี” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นปัญหาในการแก้ความยากจนวันนี้ ที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ มี 5 ด้านหลัก คือ รายได้ ชีวิตความเป็นอยู่ การเข้าถึงสาธารณสุข การเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม และการเข้าถึงการบริหารของภาครัฐ คือ สิ่งจำเป็นที่เราต้องเร่งดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดไว้ วันนี้ก็มีคณะทำงานจากหลายกระทรวงลงพื้นที่ไปสำรวจเป็นรายครัวเรือน ก็มีความก้าวหน้ามาตามลำดับ
ในตอนท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “พูดมาเยอะแล้ว มีอะไรที่พูดผิดหรือไม่ถูกใจหรือไม่ ก็ขออภัย ผมไม่สามารถทำให้ใครรักได้ ทุกคนพยายามทำทุกอย่างเต็มที่เพราะเป็นหน้าที่ของผม หน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ทุกวันนี้ก็สั่งการไปตามที่รัฐมนตรีต่างๆ นำเสนอขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เคยต่ำกว่า 3-5 ชั่วโมง ไปเช็กได้เลยทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งเราก็เปิดกว้างให้รัฐมนตรีทุกพรรคได้มีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นและร่วมกันตัดสินใจ และผมไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่สามารถไปควบคุมได้ ทุกวันนี้สื่อมวลชน จะจ้องหน้าผมทุกเช้า เขาจะรู้หมดว่าผมมีอารมณ์ และความรู้สึกอย่างไร ไวยิ่งกว่า 5G ผมพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ป่านนี้ก็แฮงก์ไปแล้ว เพราะผมรับปัญหาไว้เยอะเลย แต่ทั้งหมดที่เดินมาได้ เพราะความร่วมมือของทุกคนไม่ใช่ผม ทุกคนช่วยกันอยู่แล้ว ผมไม่ตำหนิใคร รัฐบาลพยายามปรับแก้อยากจะให้ถูกใจ แต่ต้องถูกต้องด้วย เพราะทุกวันนี้เป็นโลกยุคประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว“ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่สังเกตว่า บางช่วงในการกล่าวปาฐกถา พล.อ.ประยุทธ์ จำไม่ได้ว่าพูดถึงช่วงใด โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า “ผมเบลอ พูดมากไปจนลืม”